เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง 3 วัน (รถตู้) ต.ค.-ธ.ค.

วันแรก         ปั้ม ปตท.วิภาวดีขาออก – เชียงใหม่   

19.30 น.       พร้อมกันที่  ปั๊ม ปตท. วิภาวดีขาออก พร้อมออกเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง


(กรุณาเผื่อเวลาในการเดินทางมายังจุดนัดหมาย เนื่องจากรถออกเดินทางตามเวลาที่กำหนด หากท่านเดินทางมาไม่ทันเวลา ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าใช้จ่ายเนื่องจากเป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับตัวแทนแล้วทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ) 

20.30 น.       นำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยรถบัสปรับอากาศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง)

วันที่สอง      วัดพระธาตุศรีจอมทอง – พระธาตุเจดีย์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร – พระเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจ็ดยอด – วัดพระธาตุดอยคำ (หลวงพ่อทัน) – อนุสาวรียครูบาศรีวิชัย – วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร


เช้า               บริการอาหารเช้า SET BOX


นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีชวด (ปีหนู) เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นคือ เป็นพระบรมธาตุที่ไม่ได้ฝังใต้ดิน แต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในวิหาร นอกจากนั้น ณ วัดแห่งนี้ยังมีต้นโพธิ์ใหญ่เก่าแก่ ที่ปลูกอยู่ภายในวัดมาหลายร้อยปี จะมีไม้ค้ำต้นโพธิ์อยู่มากมาย ทุกวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี จะมีพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ โดยเชื่อกันว่า เป็นการสืบชะตาวัด สืบชะตาบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข


                   นำท่านสักการะ พระธาตุเจดีย์พระสิงห์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีมะโรง (ปีงูใหญ่) พระอารามหลวงชั้นเอก  ชนิดวรมหาวิหาร[1] ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง" กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 ขั้นแรกให้ก่อสร้างเจดีย์สูง 23 วา เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีก 2 ปี จึงได้สร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฏิสงฆ์ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" สมัยพญาแสนเมืองมาขึ้นครองเวียงเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย มาประดิษฐาน


เที่ยง            บริการอาหารกลางวัน


                   นำท่านสักการะ พระเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจ็ดยอด เป็นพระธาตุประจำปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ (เดิมชื่อวัดวัดโพธารามมหาวิหาร) ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พระเจ้าติโลกราชรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์มังราย โปรดให้ทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1998 พระเจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงประดับลวดลายปูนปั้น เลียนแบบมหาโพธิวิหาร ประเทศอินเดีย ในปี พ.ศ. 2020 วัดโพธารามมหาวิหาร เป็นสถานที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก ปัจจุบันเจดีย์เจ็ดยอดหักพังไปเกือบหมด

                   นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำสร้างในปี พ.ศ. 1230 รัชสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดดอยคำ" ไฮไลท์ที่สำคัญของการมาเยื่อน ณ วัดแห่งนี้ก็คือการมาสักการะ หลวงพ่อทันใจ ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ด้านหลังของวัดท่านจะได้พบเห็นกับวิวของเมื่องเชียงใหม่อีกด้วย

 

นำท่านเดินทางสู่ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย และปูชนียบุคคลที่ชาวเชียงใหม่เคารพศรัทธา มาจนถึงปัจจุบัน โดยเรื่องราวของครูบาศรีวิชัยนั้นมีความผูกพันกับประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่เป็นอย่างมากเนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทในการฟื้นฟูวัดวาอาราม โบราณสถานต่างๆ ในแถบภาคเหนือ ที่ทรุดโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง และที่สำคัญครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเหนือ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกเส้นทาง ขึ้นดอยสุเทพ ที่ทำให้เรามีโอกาสได้ขึ้นไปชื่นชมความงามของธรรมชาติและกลิ่นอายแห่งอารยธรรมล้านนาในทุกวันนี้ นอกจากนี้หลายคนยังเชื่อกันว่า เพียงได้มาไหว้ครูบาศรีวิชัยก็เสมือนได้กราบสักการะพระบรมธาตุเลยทีเดียว

                  

นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีมะแม (ปีแพะ) เป็น สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1927 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 เมื่อถึงแล้วสามารถเดินทางขึ้นชมได้ 2 ทาง คือ เดินขึ้นบันไดนาค 300 ขั้น และทางรถราง (หมายเหตุ :ไม่รวมค่ารถรางราคาขึ้น/ลง คนละ 20 บาท สำหรับคนไทย และ 50 บาทสำหรับชาวต่างชาติ) ระยะทางจากเชิงดอยถึงวัดประมาณสิบกว่ากิโลเมตรใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง วัดแห่งนี้ถือเป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่ ถ้าหากใครที่มาเยือนเมืองเชียงใหม่แล้วไม่ได้ขึ้นไปนมัสการถือเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่


เย็น              บริการอาหารค่ำ


ที่พัก            IBIS STYLES HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สาม      พระธาตุวัดเกตการาม – ร้านของฝากวนัสนันท์ – ลำพูน – พระบรมธาตุหริภุญชัย วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร – ลำปาง – พระธาตุลำปางหลวง – กรุงเทพฯ

เช้า               บริการอารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


นำท่านสักการะ พระธาตุวัดเกตการาม เป็นพระธาตุประจำปีจอ (ปีสุนัข) เนื่องจากตามความเชื่อพระธาตุประจำปีจอคือ พระเกศแก้วจุฬามณีซึ่งเจดีย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้นพระธาตุวัดเกตุการามจึงถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณีสำหรับผู้ที่เกิดปีจอ สร้างขึ้นในปี 1971 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งราชวงค์เม็งราย เดิมชื่อวัดสระเกตุลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่มีฐานกว้าง 82 วา ยาว 6 วา รายล้อมด้วยเจดีย์บริวารทั้ง 4 มุม เดิมมีฉัตรแบบเดียวกับวัดพระธาตุดอยสุเทพแต่ปัจจุบันได้สูญหายไป  ถ้าได้ลองสังเกตยอดเจดีย์พระธาตุวัดเกตการาม จะเห็นว่าเอียงเล็กน้อย เป็นความตั้งใจของผู้สร้าง ตามความเชื่อโบราณที่ว่าการสร้างเจดีย์ที่ มียอดชี้ตรงไปยังสวรรค์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณีนั้น ถือเป็นการไม่สมควร


นำท่านซื้อของฝากเชียงใหม่ ร้านวนัสนันท์ เป็นร้านของฝากพื้นเมืองของเชียงใหม่ มีของฝากมากมาย อาทิ ไส้อั่ว แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม ซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่


หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่จังหวัดลำพูนเพื่อสักการะ พระบรมธาตุหริภุญชัย วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีระกา (ปีไก่) เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 28 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา วัดพระธาตุหริภุญชัย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2478


เที่ยง            บริการอาหารกลางวัน


หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระธาตุลำปางหลวง สักการพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีฉลู (ปีวัว)  วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ และเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย อีกทั้ง พระธาตุลำปางหลวง ยังเป็น พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน เดินขึ้นไปตามบันไดนาคจนถึงประตูซุ้มโค้งหรือประตูโขง ที่ส่วนบนมีลายปูนปั้นเป็นกรองวิมาน มีนาคและหงส์ตามชั้นต่าง ๆ จนถึงยอดดูสวยงามยิ่ง ข้างบนด้านหน้าจะเป็น พระวิหารหลวง เป็นวิหารเปิดโล่งขนาดใหญ่ เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย ไฮไลท์อีกหนึ่งสิ่งที่คนมาเยื่อนวัดแห่งนี้คือการได้มาชม พระธาตุกลับหัว (หมายเหตุ : การขึ้นชมพระธาตุกลับหัวสามารถชมได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น)

 

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ

 

21.00           เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ

 

 

** ขอขอบพระคุณที่เลือกใช้บริการ **

 

 

อัตราค่าบริการ

กำหนดการเดินทาง

ราคาทัวร์ผู้ใหญ่/เด็ก

ห้อง 2-3 ท่าน

พักเดี่ยวเพิ่ม

23 – 25 ตุลาคม 2563

2,999

800

20 – 22 พฤศจิกายน 2563

2,999

800

05 – 07 ธันวาคม 2563

2,999

800

10 – 12 ธันวาคม 2563

2,999

800

* กรณีพัก 3 ท่าน/ห้อง ทางโรงแรมจะทำการเสริมเตียงได้เท่านั้น *

 

** ราคาทัวร์นี้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500 บาท/ท่าน **

 

***ค่าบริการข้างต้น ยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 300 บาท /ทริป/ต่อท่าน***

 

การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวนขั้นต่ำ 25 ท่าน ต่อ 1 คันรถบัส กรณีผู้โดยสารไม่ครบตามจำนวนดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง

เปลี่ยนแปลงราคา หรือปรับเปลี่ยนพาหนะ ทั้งนี้ขนาดของรถบัสขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร

 


 อัตราค่าบรินี้รวม

 

R ค่ารถบัส หรือรถตู้ปรับอากาศตลอดเส้นทางที่รายการระบุ

R ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการระบุ

R ค่าอาหารตามที่รายการระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

R ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตราฐานตามที่รายการระบุ (พักห้องละ 2 ท่าน หรือ 3 ท่าน ต่อห้อง กรณีที่โรงแรมมีห้องพัก 3 ท่าน Triple ว่าง) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พักไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทนโดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

R ค่าจ้างไกด์นำเที่ยวคอยบริการ และ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

R ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) กรณีต้องการซื้อประกันเพิ่มเพื่อคุ้มครองสุขภาพกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ

 

อัตราค่าบรินี้ไม่รวม

 

T ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหาร เครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ และ ค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ

T  ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น

T ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการออกใบเสร็จรับเงินในนามบริษัท

T  ค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยว ท่านละ 300 บาท

 

 

เงื่อนไขการชำระค่าบริการ


  1. นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ เป็นจำนวน 1,700 บาทต่อท่าน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน เพื่อสำรองที่นั่ง
  2. กท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วัน กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ
  3. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท


เงื่อนไขการยกเลิกการเดินทาง

  1. กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร ทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ
  2. กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้

2.1          ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 30 วัน ขึ้นไป คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน หรือหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง ** ในกรณีที่วันเดินทางตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์        ต้องยกเลิกการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน **

2.2          ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 15 - 29 วัน คืนเงินค่าทัวร์ 50% และหักค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริง ได้แก่ ค่ายานพาหนะ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ค่าธรรมเนียมเข้าชม      สถานที่ท่องเที่ยว ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ

2.3          ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 0 - 14 วัน ไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ชำระแล้วทั้งหมด

 

เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ


1.    ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น

2.    ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองด้วยเหตุ ผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน

3.    ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริง   ของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้ บริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ

4.    ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัย              ธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ  อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น

5.    มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท  เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น 

Visitors: 815,484