ทัวร์นิวซีแลนด์
ท่องเที่ยวนิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ (New Zealand) : เมารีเรียกนิวซีแลนด์ว่า Aotearoa [เอาเตอารัว] หมายถึง "ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว" หรือ Niu Tireni [นิวทิเรนี] ซึ่งเป็นการทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ รวมถึงเกาะเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ - นิวซีแลนด์มีเมืองหลวงชื่อเวลลิงตัน (Wellington) นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ห่างไกลจากประเทศอื่น ๆ มากที่สุด ประเทศที่อยู่ใกล้ที่สุดคือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะใหญ่ 2,000 กิโลเมตร โดยที่มี ทะเลแทสมันกั้นกลาง ดินแดนเดียวที่อยู่ทางใต้คือทวีปแอนตาร์กติกา และทางเหนือคือนิวแคลิโดเนีย ฟิจิ และตองกา นิวซีแลนด์ได้กลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษด้วยสนธิสัญญาไวทังกิ (Treaty of Waitangi) เมื่อปี พ.ศ. 2383 ซึ่งได้สัญญาไว้ว่าจะให้ "complete chieftainship" (tino rangatiratanga) แก่ชนเผ่าเมารีของ นิวซีแลนด์ ในปัจจุบัน ความหมายที่แน่นอนของสนธิสัญญานี้ยังคงเป็นข้อพิพาท และยังคงเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดการแบ่งแยกและความไม่พอใจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2383 นิวซีแลนด์ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นประเทศอิสระที่มีรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย และอยู่ภายใต้พระมหากษัตริย์ของกษัตริย์แห่งนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกับประเทศอื่นในเครือจักรภพ นิวซีแลนด์รับผิดชอบการต่างประเทศของหมู่เกาะคุกและนีอูเอซึ่งปกครองตนเอง และปกครองโตเกเลาเป็นเมืองขึ้น
สภาพภูมิอากาศ : นิวซีแลนด์ ประกอบด้วย 4 ฤดูกาล ได้แก่
- ฤดูร้อน ธันวาคม - กุมภาพันธ์
- ฤดูใบไม้ร่วง มีนาคม – พฤษภาคม
- ฤดูหนาว มิถุนายน – สิงหาคม
- ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน – พฤศจิกายน
เนื่องจากตั้งอยู่ในโซนอากาศอบอุ่น ทำให้มีอากาศอบอุ่นชุ่มชื้นตลอดปี ฤดูร้อนอากาศค่อนข้างเย็น ฤดูหนาวไม่หนาวจัดมาก มีฝนตกตลอดปี ได้รับอิทธิพลจาก ลมประจำที่พัดผ่าน คือลมฝ่ายตะวันตก และ กระแสน้ำอุ่นออสเตรเลียตะวันออก
อากาศแตกต่างกันดังนี้
- เกาะเหนือมีอากาศอบอุ่นชื้นทั่วเกาะ
- เกาะใต้ชายฝั่งตะวันตกฝนชุกกว่าชายฝั่งตะวันออก
- เกาะใต้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงย่างเข้าสู่ฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมอยู่ทั่ว และมีมากที่ เทือกเขา Cook
เวลา : เวลาของประเทศนิวซีแลนด์จะเร็วกว่าเวลาของประเทศไทย 5 ชั่วโมง แต่จะมีการปรับเวลาช้าลง 1 ชั่วโมงในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมีนาคม หรือช่วงที่เรียกว่า Day Light Saving ซึ่งจะมีผลทำให้ประเทศนิวซีแลนด์มีเวลาที่เร็วกว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมงในช่วงนี้
ภาษา : ภาษาที่ใช้เป็นภาษาทางราชการคือ ภาษาอังกฤษ
เงินตรา : ประเทศนิวซีแลนด์ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์นิวซีแลนด์(NZD) ซึ่ง 1 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ สามารถแลกเป็นเงินไทยได้ประมาณ25.4035 ประเทศนิวซีแลนด์มีธนบัตร 5, 10, 20, 50 และ 100 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ส่วนเหรียญนั้นมีมูลค่าตั้งแต่ 0.20, 0.50, 1 และ 2 ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ระบบไฟฟ้า : กระแสไฟฟ้า 230/240 โวลต์ ในโรงแรมและที่พักส่วนใหญ่จะเตรียมไฟระบบ 110 โวลต์ ไว้ให้บริการ หรืออาจนำอุปกรณ์แปลงไฟและตัวแปลงจาก 2 หัวเป็น 3 หัวติดตัวไปด้วย
ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป : ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
การใช้โทรศัพท์ : สำหรับคนที่ไปเที่ยวนิวซีแลนด์และอยากจะโทรกลับประเทศไทยวิธีที่ประหยัดที่สุดคือ การใช้โทรศัพท์สาธารณะของนิวซีแลน์ โดยปกติจะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบใช้บัตร และแบบหยอดเหรียญ บัตร์โทรศัพท์สามารถหาซื้อได้ตาม ร้านค้าทั่วไป ที่ทำการไปรษณีย์ปั๊มน้ำมั้น ฯลฯ หากต้องการใช้ตู้โทรศัพท์ที่หยอดเหรียญ จะต้องใช้เหรียญ 20 เซ็นต์หยอดเพื่อใช้บริการ สำหรับคนที่ต้องการโทรกลับประเทศไทย ต้องกดหมายเลขดังนี้ "00+66+รหัสเมือง+หมายเลขที่ต้องการ" นอกจากนี้ถ้าสังเกตดีๆ ร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานที่ท่องเที่ยว จะมีบริการฟรีด้วย หมายความว่าสามารถโทรติดต่อสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่เสียค่าบริการ เหมือนโทรภายในประเทศไม่เสียเงิน
การให้ทิป : การให้ทิปเป็นสิ่งไม่จำเป็น บ้างครั้งบริกรจะปฎิเสธเงินค่าทิป
อาหารการกิน
-กุ้งมังกร (Crayfish)เครย์ฟิช (Crayfish) เป็นกุ้งมังกรชนิดหนึ่ง ที่ชาว นิวซีแลนด์ เรียก ซึ่งเป็นคนละพันธุ์กับเครย์ฟิชในบางประเทศ กุ้งมังกรที่นำมาทำเป็นอาหารจะมีอายุระหว่าง 5-10 ปี มีรสชาติที่หวานและอร่อยเป็นที่สุด
-ไวน์ที่มาร์ลโบโรว์ (Marlborough)ถ้าพูด ถึงเรื่องไวน์ ต้องนึกถึงหุบเขาไวราว (Wairau Valley) ในเขตมาร์ลโบโรว์ เพราะเป็นแหล่งปลูกไวน์ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดของที่นี่ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการกิจการไร่ไวน์เกือบ 50 แห่ง โดยมีไร่ไวน์มอนทาน่า (ผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์) เป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มนำองุ่นพันธุ์ดีมาปลูกในท้องที่แห่งนี้เมื่อช่วง ทศวรรษที่ 1970
- หอยแมลงภู่เปลือกเขียว (Greenshell Mussel)นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องกุ้งมังกรแล้ว นิวซีแลนด์ยังขึ้นชื่อเรื่องหอยแมลงภู่ด้วย ถึงขนาดมีเมืองแห่งหอยแมลงภู่เลยทีเดียว (เมืองแฮฟล็อก - Havelock) ซึ่งเมนูอาหารที่นักทานนิยมสั่งกันมีอยู่สองอย่าง ได้แก่ หอยย่าง (Fresh Flats) และ หอยนึ่ง (Fresh Steamers) ทั้งนี้หอยแมลงภู่ย่างจะถูกเสิร์ฟโดยแกะฝาออกเหลือเพียงฝาเดียว เราจึงสามารถนำไปย่าง แล้วใส่เครื่องปรุงแบบต่างๆ ได้ ส่วนหอยแมลงภู่นึ่งเขาจะนำไปนึ่งทั้งตัวเลยครับ ก่อนจะยกเสิร์ฟมาเป็นหม้อ เพื่อให้นักชิมลิ้มรสทั้งน้ำและเนื้อไปพร้อมๆ กัน
-แซลมอน มีขายอยู่ทั่วประเทศนิวซีแลนด์ ซื้อหาสะดวกตามซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ และแม้แต่ร้านอาหารฝรั่งแทบทุกร้าน ก็จะต้องมีแซลมอนอยู่ในเมนูเสมอ ๆ แต่ที่อยากจะให้ไปทานกันแบบถึงที่แบบสด ๆ ก็คงจะต้องไปที่ Mt. Cook ทางเกาะใต้ของประเทศ โดยจะมีฟาร์มที่โด่งดังที่มีกระแสน้ำเย็นไหลผ่านอย่างรวดเร็วตลอดทั้งปีจากธารน้ำแข็งบนภูเขา ทำให้ปลานั้นมีคุณภาพและสดมาก
-กีวี (Kiwi)ก่อนหน้านี้กีวีไม่เป็นที่รู้จักของชาวโลกเท่าไหร่ แต่เมื่อพบว่าการเก็บกีวีไว้ในตู้เย็นหรือห้องเย็น สามารถที่จะรักษาคุณภาพกีวีได้นานถึง 6 เดือน จึงทำให้กีวีเป็นที่รู้จักและแพร่หลายมาก ยิ่งในปี ค.ศ. 1998 ได้มีการค้นพบกีวีสีทอง (Zespri Gold Kiwi) ซึ่งมีเนื้อสีเหลืองและรสชาติหวานฉ่ำกว่าเดิมมาทดแทนพันธุ์สีเขียว (Hayward Green Kiwi) ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กีวีกลายเป็นที่นิยมยิ่งขึ้น
-New Zealand Beef เนื้อวัวเนื้อวัวนิวซีแลนด์ก็ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพสูงและมีรสชาติอร่อย นำมาทำอะไรได้หลายเมนู ทั้งสเต็ก เนื้ออบ เนื้อทอด สตูว์ ฯลฯ อีกมากมาย สำหรับคนไทยเราก็คงจะหนีไม่พ้นเอามาทำลาบน้ำตกกันให้พอหายคิดถึงอาหารกันได้บ้าง สาเหตุที่เนื้อวัวมีรสชาติดีก็น่าจะอยู่ที่การเลี้ยงดู อากาศที่ดี และหญ้าอาหารที่สะอาด ลองไปทานตามร้านอาหาร หรือจะไปซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ตมาทำทานเองก็อร่อยไม่แพ้กัน ยี่ห้อที่เห็นบ่อย ๆ แพ็คเกจจิ่งสวยมาก และเนื้อเค้าก็มีคุณภาพดี สดสะอาด ก็คือยี่ห้อ silverfernfarms
-Whitebait ปลาตัวเล็ก ๆ เนื้อหอม ๆ นี้ก็ถือว่าขึ้นชื่อและหาทานยากมากเหมือนกันที่มาจากประเทศนิวซีแลนด์จริง ๆ เท่าที่เห็นแช่แข็งส่วนใหญ่ก็จะเป็น whitebait จากประเทศแถบเอเชียเสียมากกว่า ดังนั้นถ้าได้พบ whitebait ของนิวซีแลนด์แท้ ๆ เหตุเพราะการจับปลาชนิดนี้ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง และต้องใช้ความอดทนสูงในการจับปลาตัวเล็ก ๆ ในฤดูจับปลาที่มีระยะเวลาสั้น จะพบมากในชายฝั่งตะวันตกของเกาะใต้
-New Zealand Lamb เมนูจากเนื้อแกะหันซ้ายเจอแกะ หันขวาเจอแกะ หันหน้าหันหลังก็เจอแกะ แสดงว่าคุณมาถึงนิวซีแลนด์แล้วค่ะ แล้วเมนูอาหารจะหนีพ้นเนื้อแกะได้อย่างไรเล่า หลาย ๆ คนที่ได้เคยลองทานก็จะชอบมาก ๆ เค้าว่ากันว่าถ้ายิ่งได้ทานคู่กับไวน์แดงของนิวซีแลนด์แล้วก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยมากขึ้นไปอีก ใครไม่สะดวกไปซื้อเนื้อแกะมาทำเองก็ไปเดินหาร้านอาหารฝรั่งที่มีเมนูแกะกันได้
-Hamburger แฮมเบอร์เกอร์แนะนำแฮมเบอร์เกอร์เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็คงจะเป็นเพราะหลาย ๆองค์ประกอบ เพราะเนื้อที่นี่คุณภาพดี โดยเฉพาะเนื้อวัวเนื้อแกะ พอมาทานกับผักสด ๆ และขนมปังนุ่ม ๆ หอม ๆ ต้นตำรับของฝรั่งเค้า บวกกับมันฝรั่งทอดอร่อย ๆ เข้าไปก็เลยลงตัวกันเลยทีเดียว เลือกร้านแฮมเบอร์เกอร์ เลือกที่แบบทำสด ๆ ไม่ใช่สำเร็จรูป หลาย ๆ คนก็คงจะทราบดีว่าเวลามาเที่ยวนิวซีแลนด์โดยเฉพาะลงไปทางเกาะใต้ควีนส์ทาวน์แล้วก็ต้องไปทาน Ferg Burger บางคนหลงไหลถึงขั้นที่ว่าหากมีใครไปเที่ยวควีนส์ทาวน์ก็จะฝากซื้อกันเลยทีเดียว เพราะแม้จะต้องใช้เวลาเดินทางมาเกินกว่าสองสามชั่วโมงแต่เบอร์เกอร์ของเค้าก็ยังนิ่มและอร่อยได้
รายการช้อปปิ้ง : ช้อปปิ้งในควีนส์ทาวน์ : ควีนส์ทาวน์เป็นเมืองเดียวในนิวซีแลนด์ที่ร้านค้าเปิดถึง 3-4 ทุ่มทุกวัน โดยเฉพาะร้านค้าที่อยู่ระหว่างถนนเชิร์ช (Church Street) จนถึงถนนชอตโอเวอร์ (Shotover Street) ศูนย์กลางการค้าจะอยู่ที่เดอะมอลล์ ซึ่งเป็นถนนสายสั้นๆ ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า เสื้อไหมพรม เสื้อขนแกะ และของที่ระลึกต่างๆรวมทั้งของมียี่ห้อ เช่น ทิมเบอร์แลนด์ หรือ แคนเทอร์เบอรี่ ฯลฯ ราคาของที่นี่เท่ากับทุกๆแห่งในนิวซีแลนด์ ช้อปปิ้งรอบดึกในควีนทาวส์ มีพวกดอกไม้แห้ง ผลิตภัณฑ์แฮปปี้ เฮ็น (Happy Hen)
เทศกาลสำคัญ : เทศกาลโกลเด้น เชียร์ส ทุกเดือนมีนาคม ชายหนุ่มหญิงสาวจะมาร่วมประชันฝีมือกันเพื่อชิงแชมป์สุดยอดช่างตัดขนแกะแห่งปี โดยงานนี้มีระยะเวลาสามวันและเริ่มจัดอย่างเป็นทางการในปี 1961 ได้รับความนิยมอย่างสูงถึงกับต้องให้ทหารเข้ามาดูแลฝูงชนให้อยู่ในความเรียบร้อย ทุกวันนี้ การแข่งขันถูกแยกย่อยออกเป็นประเภทต่างๆ รวมถึงมีการแบ่งระดับตามความเชี่ยวชาญ โดยในแต่ละประเภทสามารถมีช่างตัดขนแกะเข้าร่วมได้มากถึง 120 คน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทศกาลโกลเด้น เชียร์ส เข้มข้นและจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้เข้าแข่งต่างทุ่มเทเวลาฝึกฝนอย่างเต็มที่เพื่องานใหญ่ครั้งนี้
งานเทศกาลอาหารและไวน์ทั่วประเทศ ช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นช่วงเวลาของการจัดงานเทศกาลอาหารและไวน์ทั่วประเทศ นับเป็นโอกาสดีสำหรับบรรดานักชิมที่จะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารเลิศรสของภูมิภาคต่างๆ ในนิวซีแลนด์
เทศกาลฤดูใบไม้ผลิในช่วงฤดูใบไม้ผลิทั่วประเทศจึงร่วมกันจัดเทศกาลสวนและพืชพรรณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานจัดสวนไม้ดอกและพันธุ์พืช Ellerslie Flower Show ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีที่เมืองอ็อคแลนด์
โอทาโก้ (Otago Festival of the Arts)ในเดือนตุลาคมหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเทศกาลแห่งเมืองดะนีดิน ( Dunedin Festival) ซึ่งรวม เอาการแสดงดนตรี ละคร เต้นรำ และโอเปร่าจากนักแสดงทั้งพื้นเมืองและนานาชาติมาไว้ด้วยกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-อ็อคแลนด์ (Auckland)เมืองโอ๊คแลนด์เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวไวเตมาตา และอ่าวมานูเกา เป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองแห่งการเล่นเรือใบ มีแม่น้ำไวกาโต ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาว ที่สุดในนิวซีแลนด์ไหลผ่าน และที่เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ จึงเป็นเปรียบเสมือนเมืองหน้าด่านแห่งเกาะเหนือที่รองรับนักท่องเที่ยวจาก ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในเมืองโอกแลนด์นั้นมีทั้งสกายทาวเวอร์ (Sky Tower) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง ตัวเมืองที่มีความทันสมัย ตลอดจนแหล่งชอปปิ้งที่น่าสนใจอีกมากมาย โอ๊คแลนด์เมืองนี้เป็น “เมืองแห่งเรือ” หรือ “เมืองราชินี เพราะเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันโอ๊คแลนด์เป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งกำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองแห่งการเล่นเรือใบ นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมด้วยทรัพยากรธรรมชาติและบรรยากาศแบบสบายๆ อย่างที่ทราบกันดีว่าเมืองโอ๊คแลนด์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม บทความนี้เราเลยขอแนะนำตึกสูงที่เป็นจุดชมวิวเก๋ๆ ของเมืองนี้
- หอคอยสกายทาวเวอร์ (Sky Tower) เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงสุดในซีกโลกใต้ มีความสูงถึง 328 เมตรจากพื้นดิน สวยงามและโดดเด่นมากในเมืองโอ๊คแลนด์ หอคอยนี้เปิดให้เข้าชมเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2540 จากจุดชมวิวสามารถชมทัศนียภาพของเมืองโอ๊คแลนด์ได้ไกลถึง 80 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมท้าทายคนชอบความสูงด้วยการเดินชมวิวบนสกายวอล์ค (Sky Walk) เป็นการเดินชมวิวรอบนอกตัวหอคอยสกายทาวเวอร์ ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 200 เมตร มีระบบความปลอดภัยด้วยเชือกรั้งเอาไว้ รวมไปถึงชุดหมีและรองเท้าผ้าใบอย่างดี แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบความท้าทายกว่านั้นก็มีกิจกรรมดิ่งหอคอยที่ชื่อว่า สกายจัมพ์ (Sky Jump) เป็นการกระโดดจากบนตึกที่ความสูง 192 เมตร คล้ายบันจี้จัมพ์แต่ผู้ที่กระโดดไม่ต้องห้อยหัวลง ซึ่งนับได้ว่าเป็นสถิติการกระโดดที่สูงที่สุดในนิวซีแลนด์อีกด้วยเมืองโอ๊คแลนด์ เป็นประตูด่านแรกเข้าสู่เกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเมืองศูนย์กลางพาณิชยกรรมและการค้าที่สำคัญที่สุด และมีอ่าวจอดเรืออยู่หลายแห่งจนได้ฉายาว่า เมืองแห่งการแล่นเรือใบ (The city of sails)
ถ้ำไวโตโมโกลว์วอร์ม (Waitomo Glowworm Caves) หรือ "ถ้ำหนอนเรืองแสง" คือจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่อยากแนะนำให้คุณมาเยือนสักครั้ง โดยถ้ำนั้นอยู่ในเขตเมืองไวโตโม (Waitomo) เมืองท่องเที่ยวเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) โดยถ้ำนั้นถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1887 โดย Fred Mace ชาวอังกฤษมีการการนำของหัวหน้าชาวเมารีในแถบนั้นชื่อ Tane Tinorau ต่อมามีการแพร่กระจายออกไปถึงความงามของถ้ำไวโตโม และหนอนเรืองแสง จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาชมกันอย่างมากมาย ภายในถ้ำนั้นเป็นที่อยู่ของหนอนเรืองแสงนับล้านตัว ประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner's Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และ หนอนเรืองแสงที่งดงามมากๆค่ะ สำหรับการเข้าชมหนอนเรืองแสงมีเป็นรอบๆทุกๆครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00 น. ใช้เวลาในการเข้าชมประมาณ 45 นาที ถ้ำเรืองแสงสุดแปลกประหลาดนี้ มีชื่อว่า ถ้ำไวโทโม(Waitomo Caves) ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองที่ได้จากการรวมคำสองคำ คือคำว่า “wai” แปลว่า “น้ำ” และคำว่า “tomo” แปลว่า “หลุม บ่อ หรือ ถ้ำ” เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า ถ้ำที่มีน้ำไหลผ่าน บริเวณทางตอนใต้ของเมือง Waikato ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1887 โดย Fred Mace ชาวอังกฤษ ภายใต้การนำทางของหัวหน้าชาวเผ่าเมารีพื้นเมือง หลังจากที่มีการค้นพบในครั้งแรกก็มีการบอกต่อกันถึงความงดงามภายในถ้ำ ที่มีความสวยงามราวกับดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน จนชื่อเสียงของถ้ำไวโทโมแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ทำให้ในปัจจุบันมีผู้คนหลั่งไหลมาเยือนอย่างมากมาย ถึงปีละ 4 แสนคนเลยทีเดียว ถ้ำไวโตโมประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner's Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และ หนอนเรืองแสง ที่งดงามหนอนเรืองแสงในถ้าไวโตโมได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคคนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมภายในถ้ำไวโตโมนี้เป็นที่เติบโตของหนอนเรืองแสง (Glowworm) ซึ่งประเทศนิวซีแลนด์จะมีถ้ำหนอนเรืองแสงอีกแห่งทางเกาะใต้ หนอนเรืองแสงที่เห็นนั้นเป็นระยะตัวอ่อนของแมลงสัตว์ปีกเล็ก ๆ ที่มีลักษณะคล้ายยุงมีชื่อว่า Arachnocampa Luminosa ซึ่งจะ ปล่อยแสงออกมาจากตัวเพื่อล่อเหยื่อบินมาติดกับ หนอนเรืองแสงดูคล้ายกับแสงสะท้อนจากพุ่มไม้ หนอนเรืองแสงจะปล่อยเมือกเหนียว ๆ ลงมาเป็นสายจากเพดานถ้ำเป็นเส้น ๆ ดูคล้ายกลุ่มของเส้นใยไหมที่ละเอียดพวกมันจะวางโครงข่ายท่อบนเพดานถ้ำเพื่อเป็นทางสำหรับเคลื่อนที่ไปมาต่อมาพวกมันจะหย่อนเบ็ด ที่มีลักษณะคล้ายเส้นไหม ที่มีตุ่มน้ำเหนียวๆ ที่มีความยาวตั้งแต่ 1 - 50 เซนติเมตรลงมากกว่า 70 เส้นเมื่อ กับดักเสร็จสิ้น พวกมันจะรอให้เหยื่อที่หลงเข้ามาเล่นไฟ ที่เรืองแสงออกมาจากตัวของพวกมันเมื่อเหยื่อหลงเข้ามาก็จะติดกับเบ็ดที่ห้อยเอาไว้ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งติดแน่นเข้า หนอนเรืองแสงจะเคลื่อนตัวไปตามโครงข่ายท่อที่วางไว้ ไปยังท่อของสายเบ็ดแล้ว โผล่ออกมาลากเหยื่อกับเข้าไปในท่อ เพื่อสังหาร และกินเป็นอาหาร
-เมืองโรโตรัว (Rotorua) ดินแดนมหัศจรรย์ที่งดงามของนิวซีแลนด์ และยังเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์อีกด้วย เมืองโรโตรัว เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งน้ำแร่ น้ำพุร้อน และบ่อโคลนเดือด โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมทะเลสาบโรโตรัว ซึ่งได้รับสมญานามว่า"เมืองแห่งซัลเฟอร์" (Sulphur City) นอกจากนี้แล้วเมืองโรโตรัวยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำกันมากที่สุดในโลกไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพอันงดงามจากภูเขาไฟ ทะเลสาบ และวัฒนธรรมอันดั้งเดิม ของชาวเมารี ไหนๆก็มาถึงเมืองแห่งภูเขาไฟแล้ว สถานที่แรกที่ควรไปชมความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เกิดขึ้นจากน้ำพุร้อนใต้พิภพอย่าง "ไว-โอ-ทาปุ (Wai-O-Tapu) " เป็นแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นทางด้านสีสัน และมีรูปแบบอันหลากหลายของเหล่าน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อน เทอร์เรซ (บ่อน้ำพุร้อนที่เป็นระเบียง) บ่อโคลนเดือด น้ำพุโคลน จุดท่องเที่ยวที่โดดเด่นของไว-โอ-ทาปุ คือ เลดี้น็อกซ์ ไกเซอร์ (Lady Knox Geyser) อยู่ในเขตพื้นที่ของเขตภูเขาไฟเทาโป (Taupo Volcanic Zone) น้ำพุ ร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาจากหินรูปทรงกรวยสีขาว ซึ่งในการพวยพุ่งแต่ละครั้งนั้นสามารถสูงได้ถึง 20 เมตร และสามารถรักษาระดับความสูงของน้ำพุไว้ได้นานกว่า 1 ชั่วโมงอีกด้วย หลังจากนั้นไม่พลาดไปเยือน แชมเปญ พูล (Champagne Pool) บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายๆกับสระว่ายน้ำ ซึ่งภายในสระนั้นเต็มไปด้วยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO 2) และมีฟองที่คล้ายกับฟองแชมเปญสามารถวัดระยะจากปากบ่อได้ความกว้างประมาณ 65 เมตร (213 ฟุต) และสามารถวัด ระดับความลึกได้ประมาณ 62 เมตร (203 ฟุต) ปัจจุบันแชมเปญ พูลได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในไว-โอ-ทาปุอีกด้วย
วิธีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนิวซีแลนด์นั้น สำคัญไม่แพ้กับการเลือกจุดหมายปลายทาง การค้นหาข้อมูลต่างๆ จะช่วยให้คุณเลือกการเดินทางที่เข้ากับสไตล์วันพักผ่อนในใจคุณ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่การเดินทางแบบหรูหราไปจนถึงการเดินทางแบบราคาย่อมเยาหรือสไตล์แบ็คแพ็คแต่แน่นอนว่า การเดินทางที่นิยมมากที่สุดคือการขับรถเที่ยวเอง คุณจะพบว่าทิวทัศน์สองข้างทางนั้นเปลี่ยนไปเกือบทุกโค้งที่คุณเลี้ยว ด้วยสภาพถนนที่ถูกวางไว้ให้เป็นไปตามสภาพธรรมชาติของภูมิประเทศ ถนนไฮเวย์นอกเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นถนนสองเลน โดยมีเลนกลางไว้ให้แซงเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัย เวลาที่ใช้ในการขับรถ จึงมักจะนานกว่าที่คิดไว้เสมอ ดังนั้น คุณควรเผื่อเวลาในการเดินทางให้เพียงพอ เพื่อจะได้ไม่ต้องเร่งรีบ และสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวิวระหว่างทางได้เต็มที่ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวที่อิสระอีกทางหนึ่ง คุณอาจเลือกการท่องเที่ยวด้วยรถแคมเปอร์แวนหรือมอร์เตอร์โฮมเส้นทางขับรถท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์มีมาตรฐานสูง ถนนส่วนใหญ่ราดยางอย่างดี ถนนทุกเส้นแม้แต่ในเขตชนบท มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน และที่สำคัญ ประเทศนิวซีแลนด์ขับรถชิดซ้ายเหมือนในประเทศไทย
-The New Zealand Maori Art & Craft Institute สถานที่ที่นักท่องเที่ยวใช้ในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชนเผ่าพื้นเมืองเมารีได้ คือ "ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเมารี" หรือ "The New Zealand Maori Art & Crafts Institute" หรือ "Te Whakarewarewa" ศูนย์แห่งนี้มักถูกเรียกย่อๆว่า วากา (Whaka) โดยจัดให้มีการถ่ายทอดการสานตะกร้า ทอผ้า และทอเสื่อ การแกะสลักโบสถ์ เรือพาย อาวุธ และเครื่องประดับ ซึ่งงานเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของชาวเมารีสืบต่อกันไป
-Sheep Show ประชากรสัตว์ที่มีมากกว่าชาวนิวซีแลนด์ถึง 10 เท่า ซึ่งนอกจากเนื้อของมันจะเป็นอาหารอันโอชะให้มนุษย์แล้ว ขนของมันก็มีประโยชน์อีกไม่ใช่น้อย... "แกะ"สัตว์ที่มีขนปุกปุยน่ารักแถมหน้าตาของมันก็ดูซื่อๆ สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศนิวซีแลนด์ได้ไม่น้อยทีเดียว ด้วยจำนวนที่มีมากกว่าคนถึง 10 เท่า (จำนวนประชากร 4.3 ล้านคน) แกะนิวซีแลนด์จึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศอย่างมาก แม้แต่ฟาร์มเลี้ยงแกะก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เลื่องชื่อ จากการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม พร้อมมีการแสดงของแกะเป็นตัวชูโรง รวมไปถึงโชว์การตัดขนแกะอีกด้วย
-เกาะใต้ ( South Island ) เป็นเกาะที่มีขนาดพื้นที่น้อยกว่า เกาะเหนือเพียงเล็กน้อย สภาพภูมิอากาศของเกาะใต้จะหนาวเย็นกว่าเกาะเหนือเนื่องจากอยู่ในเขตที่ใกล้กับขั่วโลกใต้กว่า
-Franz Josef Glacier/Fox Glacier ธารน้ำแข็งฟรานซ์โจเซฟ (Franz Josef Glacier) และธารน้ำแข็งฟ็อกซ์ (Fox Glacier) ธารน้ำ แข็งสองสายบนพื้นที่มรดกโลกเขตอุทยานแห่งชาติเวสต์แลนด์ ที่ไหลจากบริเวณหิมะปกคลุมสู่เขตป่าดิบชื้น ซึ่งกล่าวได้ว่าไม่มีที่ใดในโลกแล้วที่สามารถเข้าถึงธารน้ำแข็งได้ใน อุณหภูมิปกติเช่นนี้ โดยเราสามารถเข้าชมธารน้ำแข็งดังกล่าวได้จากเส้นทางเดินเท้าที่มีให้เลือก อยู่หลายระดับ และใช้เวลามากน้อยต่างกันไป
-Queenstown เมืองควีนสทาวน์ นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของ นิวซีแลนด์ แล้ว Queenstown ยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับผู้รักกีฬาท้าทายความเสี่ยงโดยทั่วไปว่า เป็น the adventure-tourism capital of the world และเป็นเสมือน home of bungy jumping อีกด้วยเมือง Queenstown นอกจากจะเป็นรีสอร์ตสกีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในซีกโลกใต้แล้ว ธุรกิจกีฬาท้าทายความเสี่ยงประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรือยางล่องแก่ง, water surfing, เรือเร็ว Jet boat, bungy jump, paragliding, Hang gliding, Skydive ยังเป็นอุตสาหกรรมหลักของเมืองนี้อีกด้วยเช่นกัน
-Christchurch ไครสต์เชิร์ช เมืองที่ได้ชื่อว่ามีความเป็นอังกฤษมากที่สุด ในบรรดาเมืองอื่นๆของนิวซีแลนด์ มีแม่น้ำเอวอนไหลคดเคี้ยว ผ่านกลางเมืองให้ความรู้สึกสงบ มีโบสถ์ขนาดใหญ่แบบแองกลิกัน ตั้งตระหง่านตรงกลางจตุรัส ในเมืองและมีสวนที่งดงามปราณีต ไครสต์เชิร์ช เป็นเมืองใหญ่ที่สุด ทางเกาะใต้ตั้งอยู่ตรงที่ราบแคนเทอร์เบอร์รี่ ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิค มีประชากรประมาณ 320,000 คน และยังได้ชื่อว่าเป็นประตูผ่านไปสู่ความสวยงาม ของแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทางเกาะใต้ นอกจากนี้ไครสต์เชิร์ชยังเป็นศูนย์รวมของศิลปะวัฒนธรรม เทคโนโลยี และแหล่งทรัพยากรอันมีค่า ของแคนเทอร์เบอร์รี่และเกาะใต้อีกด้วย อุณหภูมิในหน้าหนาวอาจลดต่ำกว่า 0 องศา เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนหน้าร้อนค่อนข้างอุ่นบางครั้งอาจสูงถึง 30 องศาเซลเซียส สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองนี้ อาทิ Cathedral Square ลานหน้าวิหาร Church of England ซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง วิหารทรงนีโอตั้งเด่นเสมือนเป็นประธานของเมือง
-Kaikoura เมืองไคคูร่าเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีชื่อเสียงในทางด้านอาหาร โดยเฉพาะ crayfish หรือ กุ้งมังกร มีเสน่ห์ในการให้บริการด้านการดูปลาวาฬ แมวน้ำ ว่ายน้ำสัมผัสปลาโลมา และนั่งเฮลิคอปเตอร์ดูปลาวาฬ แต่นอกจากการได้ใกล้ชิดกับสัตว์น้ำนานาชนิดแล้ว เมืองนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกเช่น
Kaikoura's oldest house บ้านโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1860 โดยตั้งชื่อตามเจ้าของเดิมคือ George Fyffe บ้านหลังนี้ถือเป็นโบราณสถานเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
Kaikoura Museum พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวมรวมเรื่องราวของเมืองนี้ รวมไปถึงประวัติของปลาวาฬด้วย
Kaikoura Museum Mount Lyford Alpine Resort รีสอร์ตที่ให้บริการกิจกรรมต่างๆ เช่น สกี สโนว์บอร์ด
Kaikoura Peninsula แหลมหินที่เป็นแหล่งพักพิงของแมวน้ำ ซึ่งเราสามารถถ่ายรูปและสัมผัสกับพวกเขาได้อย่างใกล้ชิด
Maori Leap Cave ถ้ำที่อยู่ห่างจากเมืองไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถ้ำนี้เจาะเข้าไปในหน้าผา Maori Leap และมีโพรงให้ลำธารใต้ดินไหลออกมาได้ด้วย
Lake Wakatipu ทะเลสาบวาคาตีปู เป็นทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็ง มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ รองจากตาอูโป และ เต อานาอู ความที่มีระดับน้ำขึ้นลงต่างกันได้ถึง ๑๒ เซนติเมตรทุกๆ ๕ นาที และรูปร่างเหมือนงูเลื้อย จึงมีตำนานเมารีกล่าวถึงอสูรกายที่นอนอยู่ใต้ร่องลึกของทะเลสาบ และน้ำที่ขึ้นลงเป็นจังหวะถี่แบบนี้ก็เพราะการเต้นของหัวใจมัน ชื่อในภาษาเมารีมาจากคำว่า วาคาตีปูอา (Wakatipua) waka=เรือ tipua=อสูรกาย หรืออีกที่มาหนึ่งคือ ฟาคาตีปู (Whakatipu) หมายถึง การเติบโต เพราะ มีชนพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งถูกศัตรูโจมตีพ่ายแพ้ มาพักฟื้นและตั้งต้นชีวิตใหม่ที่นี้
นิวซีแลนด์,ทัวร์นิวซีแลนด์,ประเทศนิวซีแลนด์,แพคเกจนิวซีแลนด์,แพ็คเกจทัวร์นิวซีแลนด์,แพ็จเก็จทัวร์นิวซีแลนด์,โปรแกรมทัวร์นิวซีแลนด์,เที่ยวนิวซีแลนด์ถูก,ทัวร์เกาะเหนือ,ทัวร์เกาะใต้,เกาะเหนือ เกาะใต้
,อ๊อคแลนด์,อ๊อคแลนด์ โรโตรัว,เรนโบว์ สปริง,เมืองอ็อคแลนด์,เรนโบว์ สปริงซ์ (Rainbow Spring),ศูนย์วัฒนธรรมเมารี,อโกรโดม,ฟาร์มอโกรโดม (Agrodome)
,ชมเมืองอ็อคแลนด์,สะพานฮาเบอร์,ไคร้สเชิร์ท,แอชเบอร์ตัน,เมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ,พิพิธภัณฑ์แคนเทอเบรรี่,เมืองแอชเบอร์ตัน,แอชเบอร์ตัน,ทะเลสาบเทคาโป,ครอมเวล,ควีนส์ทาวน์,ทะเลสาบเทคาโป,เทคาโป
,อนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ,ทะเลสาบปูคากิ ,เมืองควีนส์ทาวน์ ,แอร์โร่ ทาวน์,โอมาราม่า,ฟาร์มปลาแซลมอน,เมืองทไวเซิล,ฟาร์มปลาแซลมอน (Salmon Farm),Million Dollar View
,ศูนย์วัฒนธรรมชาวเมารี (TE PUIA ),เรนโบว์ สปริง ( RAINBOW SPRINGS ) สถานอนุรักษ์พันธุ์ปลาเทร้า , อโกรโดม (AGRODOME) ฟาร์มเลี้ยงแกะใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองโรโตรัว
,หมู่บ้านของชาวฮอบบิต ( HOBBITON MOVIE SET)สัมผัสประสบการณ์เบื้องหลังของสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไตรภาคฟอร์มยักษ์ เรื่อง ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ และ เดอะ ฮอบบิต
,ควีนส์ สตรีท