เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง 5 วัน (รถไฟ)


เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง  5  วัน



กำหนดการเดินทาง : ออกเดินทางได้ทุกวัน 8 ท่านออกเดินทาง (กรุ๊ปส่วนตัว)

วันแรก        สถานีรถไฟ กรุงเทพ(อภิวัฒน์) – สถานีรถไฟ(คำสะหวาด)เวียงจันทน์ (นอนบนรถไฟ)

18.00 น.          คณะพร้อมกัน ณ สถานีรถไฟ กรุงเทพ(อภิวัฒน์)บางซื่อ

20.25 น.          ออกเดินทางสู่สถานีรถไฟ จ.หนองคาย โดยรถไฟเร็ว ขบวนCNR25 (รถไฟปรับอากาศ ชั้น 2 ตู้นอน เดียง บน ล่าง ) 

 

วันที่สอง    หนองคาย - เวียงจันทน์ พระธาตุหลวง - ประตูชัย - วังเวียง  - บูลลากูล – ถ้ำนางฟ้า (พักวังเวียง)

06.25 น.          เดินทางถึงสถานีรถไฟหนองคาย  ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว

                     ไกด์ท้องถิ่นรอรับคณะ ณ ฝั่งลาว สิ่งที่ต้องเตรียมตอนเข้าประเทศลาว หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน

จากนั้นนั่นรถไฟต่อเข้าสู่สถานีรถไฟ คำสะหวาดเวียงจันทน์ 

ä บริการการอาหารเช้าแบบท้องถิ่น Set Box ข้าวจี่ปาเต๊ะ อาหารขึ้นชื่อของเวียงจันทน์ เดินทางถึง เวียงจันทน์ นำคณะสักการะ วัดพระธาตุหลวง  เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของลาว เป็นพระธาตุที่มีขนาดทั้งสูงและใหญ่ที่สุดในลาว สูงถึง 45 เมตร ทุกปีจะมีงานบุญใหญ่บูชาพระธาตุในวันเดือนเพ็ญสิบสอง ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะหลั่งไหลมาทำบุญตักบาตรเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุและถวายพานพุ่มดอกไม้และปราสาทผึ้ง จากนั้นนำท่านชม บ่อน้ำพญานาค หรือบ่อน้าทิพย์บริเวณข้างๆพระธาตุหลวง ซึ่งใต้ก้นบ่อจะเป็นทางเชื่อมลงสู่วังบาดาลของพญาศรีสัตนาคราช ซึ่งผู้คนชาวลาวต่างให้ความศรัทธาองค์ท่านทุกคน ที่สำคัญบ่อน้าทิพย์นี้น้าในบ่อเป็นน้าจากวังบาดาล เชื่อกันว่าผู้ใดได้นำน้าทิพย์นี้มาสักการบูชา หรือประพรมตามร่างกาย จะช่วยเพิ่มพูนพลังกายทิพย์ให้สูงขึ้น อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลทำสิ่งใดก็จะสำเร็จได้โดยง่าย ได้โดยง่าย นำท่านชม อนุสาวรีย์ประตูชัย เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงาม

เที่ยง             ä รับประทานกลางวัน ร้านเวียงจันทน์ ณ ร้านเฝ๋อแซ่บ

(ร้านเฝ๋อที่มีชื่อเสียงที่สุดในเวียงจันทน์  บริการด้วยเมนูเฝ๋อถ้วยใหญ่)

                   หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่วังเวียง โดยรถตู้ปรับอากาศ ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.30 ชั่วโมง โดยใช้ทางด่านเส้นใหม่

                   ถึงวังเวียง นำทุกท่านสู่ บลูลากูน ที่เที่ยวที่มาถึงวังเวียง แล้วพลาดไม่ได้ก็คือ (Blue Lagoon) สระน้ำสวยใสสีฟ้าราวกับคริสตัน เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปดำผุดดำว่าย เล่นน้ำได้อย่างสบายใจ มุมไฮไลท์คือ ชิงช้าเชือกที่อยู่ด้านข้างของ บลูลากูน ที่เราสามารถปีนขึ้นไปนั่งสวยๆ เล่นน้ำได้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ถ้ำนางฟ้า สถานที่ที่แห่งใหม่ของเมืองวังเวียง ถายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยอันสวยงาม ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Thavisouk Island หรือ เทียบเท่า ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยออกมาเดินเล่น เช่าจักรยานถ่ายรูปสวยๆ หรือ จะนั่งเรือล่องแม่น้ำซอง

 เย็น             äรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

                   หลังอาหารเพลิดเพลินไปกับสีสันยามคํ่าคืนในเมืองวังเวียงบน ถนนคนเดิน Walking Street หรือ ถนนโรตี ซึ่งมีโรตีให้ท่านได้เลือกชิมกันอย่างจุใจ 

วันที่สาม          วังเวียง - หลวงพระบาง – น้ำตกตาดกวงซี - พระราชวัง - พระธาตุพูสี – ตลาดมืด (พักหลวงพระบาง)

เช้า               ä  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก  

                   หลังอาหารนำคณะเดินทางสู่สถานีรถไฟวังเวียง

09.03 น.       ออกจากวังเวียง มุ่งหน้าสู่หลวงพระบาง

                   โดยรถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ D88 VV-LPQ

09.53 น.       เดินทางถึงหลวงพระบาง  นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ นํ้าตกตาดกวางสี ห่างจากหลวงพระบาง 30กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยผ่านหมู่บ้านชนบทริมถนน 2 ข้างทาง เป็นหนึ่งในนํ้าตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง มีแม่นํ้าใสสีมรกตตลอดปี ชมความงามของนํ้าตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆอย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ นํ้าตก ให้เวลาอิสระดื่มด่ำกับธรรมชาติเที่ยง

ä          รับประทานกลางวัน ณ ร้านอาหาร
นำท่านเข้าชม พระราชวังเก่า
(Royal Palace Museum) เป็นวังที่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์   ทรงประทับอยู่ที่นี่จน สิ้นพระชนม์ มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ..2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยน เป็นพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย หอฟังธรรม  ห้องรับแขก ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ นำท่านนมัสการ หอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืน ปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรก สลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่   

ากนั้นนำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุภูษี (Phou Si Mountian) สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้ หมายถึง “ภูศรี” คือ เป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ในยามบ่ายแก่ๆ แบบนี้แสงแดดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบาง ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์ทิ้งดวงยอมเย็นที่นี่เพื่อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจ                                                   

เย็น             äรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

ให้ท่านได้อิสระเดินเที่ยวชม ชิม ช้อปปิ้ง ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังเก่าไปจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ อีกทั้งยังมีเบอเกอรี่ ต่างๆ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง และขนมเค้กอันแสนอร่อยนานา ให้ท่านได้ดื่มด่ำบรรยากาศเลือกซื้ออาหารได้ นานาชนิด หลายสิบร้านอาหาร แวะนั่งดื่มเบียร์ลาวเย็นๆ พร้อมฟังเพลงเพราะๆได้ ณ ที่นี้ ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ ที่พัก Manoluck Hotel  หรือ เทียบเท่า*** 

วันที่สี่           ตักบาตร - ตลาดเช้า - วัดเชียงทอง - วัดวิชุน  - เวียงจันทน์ สถานีรถไฟ (คำสะหวาด) เวียงจันทน์

05.00 น        ตื่นเช้าซักหน่อยไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร ข้าวเหนียว กับชาวหลวงพระบาง ทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เดินเรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อย ๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุข และความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง นำท่านเดินเล่น ตลาดเช้า ให้ท่านได้ชมวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง อย่างแท้จริง นำท่านเดินเวะ ร้านกาแฟประชานิยม ร้านกาแฟชื่อดงเก่าแก่ของหลวงพระบาง

เช้า               ä   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก

นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง(Xieng Thong Temple) เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว  บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่” เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดี

นำท่านเข้าชม วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.. 2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ..2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์ (คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ..2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน

11.00           ä รับประทานกลางวัน ณ ร้านอาหาร

                   นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟหลวงพระบาง   

14.49 น.       ออกจากหลวงพระบาง มุ่งหน้าสู่เวียงจันทน์ โดย  รถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ D87 LPQ-VTE

15.38 น.       เดินทางสู่สะพานมิตรภาพ จ.หนองคาย แวะช้อปปิ้ง Duty Free ได้เวลาพอสมควร         

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ จ.หนองคาย เพื่อเดินทางกลับ

19.35 น.     ออกเดินทางกลับ จากเวียงจันทน์ โดยรถไฟขบวน 134

                  (รถไฟปรับอากาศ ชั้น 2 ตู้นอน เดียง บน ล่าง) 

 

วันที่ห้า               สถานีรถไฟกรุงเทพ(อภิวัฒน์)

05.30 น.       เดินทางถึง สถานีรถไฟกรุงเทพ(อภิวัฒน์) 



อัตราค่าบริการ  : โปรดสอบถาม
Visitors: 861,882