กัมพูชา 3 วัน (รถ)


เสียมเรียบ–  นครวัด – นครธม 3 วัน 2 คืน 

 

กำหนดการเดินทาง กรุ๊ปส่วนตัว 8 ท่าน ออกเดินทาง สามารถระบุวันได้เอง

วันแรก

กรุงเทพฯ – อรัญประเทศ - ปอยเปต - เสียมราฐ – องค์เจ๊ค องค์จอม – โตนเลสาบ - อาหารค่ำ ชม โชว์รำนางอัปสร

06.00 น.             คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย

06.30 น.             ออกเดินทาง สู่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด่านชายแดน ตลาดโรงเกลือ-ปอยเปต

09.30 น.             เดินทางถึง เจ้าหน้าที่รับคณะ ณ จุดนัดพบ ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต

                        สิ่งที่ต้องเตรียมตอนเข้าประเทศกัมพูชา หนังสือเดินทางที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ทั้ง ไทยและกัมพูชาเป็นที่เรียบร้อย พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ให้การต้อนรับท่านที่ฝั่งกัมพูชา นำท่านเดินทาง สู่ เมืองเสียมราฐ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ตั้งของ ‘นครวัด’ สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเทวสถานที่ถือว่าเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมร ปัจจุบัน เมืองเสียมราฐ

เที่ยง                  ä  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร

ช่วงบ่าย              นำท่านเดินทางไปสักการะ ศาลองค์เจกองค์จอม ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ 2 องค์ องค์สูงมีชื่อว่า “องค์เจก”  องค์เล็กมีชื่อว่า “องค์จอม” มีตำนานเล่าว่า มีพี่น้องสองคน ชื่อ เจกและจอม ผู้มีความเลื่อมใสพระพุทธศาสนา จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองนอนหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย บิดามารดาจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้นมา 2 องค์ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้บุตรีทั้งสอง ในการสักการะองค์เจกองค์จอม จะใช้ดอกบัว 2 กำ พร้อมธูปและเทียน (ยังไม่รวมค่าดอกไม้ธูปเทียน ประมาณชุดละ 2 USD)จากนั้นนำทุกท่าน ล่องเรือโตนเลสาบ หรือ ทะเลสาบโตนเล เป็น “ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”  มีพื้นที่ประมาน 7,500 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่เกิดจากแม่น้ำโขง คลุมพื้นที่ 5 จังหวัดของกัมพูชา ได้แก่ กำปงธม กำปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และ เสียมราฐ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีพันธุ์ปลามากถึง 200 ชนิด ท่านจะได้สัมผัสกับภาพวิถีชีวิตของผู้คน ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบอาชีพประมง มีโรงเรียนกลางน้ำ ทำการสอนหนังสือและสอนภาษาให้กับเด็กๆ ในระแวกนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นี่จะอาศัยอยู่ในเรือนแพ

19.00 น.           ä  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (เมนูบุฟเฟ่ต์)

                        พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง ระบำนางอัปสร หรือ นางอัปสรา อันตระการตาอ่อนช้อยสวยงาม

                        หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Regency Angkor Hotel หรือเทียบเท่า ««««

 

 

วันที่สอง

ปราสาทบันทายศรี - ปราสาทตาพรม – นครธม ปราสาทบายน – ปราสาทนครวัด

เช้า                    ä   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทบันทายศรี  เป็นปราสาทเล็กๆ ที่อยู่รอบนอก สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูสดใส ต่างจากปราสาทอื่นๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งความรัก ซึ่งนักโบราณคดีจากฝรั่งเศสได้ตั้งฉายาของปราสาทแห่งนี้ว่า รัตนชาติแห่งศิลปะขอม ความเพลิดเพลินของการชมปราสาทนี้ คือการได้ชมภาพทับหลัง และหน้าบันที่มีความสมบูรณ์ที่สุด แม้จะเป็นปราสาทเก่าแก่ก่อนยุคนครวัด แต่ยังคมชัดมองเห็นทุกมุมได้อย่างชัดเจน นำท่านชม ปราสาทตาพรหม  สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 1729 ในศาสนาพุทธ นิกายมหายานพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระราชมารดาเป็นวัดในพุทธศาสนาขนาดใหญ่มาก สร้างตามแบบขอมยุคสุดท้ายมีรูปแบบโดยรวมไม่ทำเป็นชั้นลดหลั่นกัน ที่ปราสาทตาพรหมมีต้นไม้อยู่ 2 พันธุ์ ต้นที่ใหญ่ที่สุดเรียกกว่า ต้นสะปง หรือ ต้นสำโรง ตามแบบฉบับคนไทย เป็นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อน อีกชนิดหนึ่ง เป็นไม้เลื้อยขึ้นอยู่ตามหน้าบัน ทับหรือ หรือตามตัวปราสาทและหลังคา ที่แทรกชอนไชไปบนแผ่นศิลาเพื่อจะหาที่ลงดินเกิดเป็นรูปทรงคล้ายหนวด ปลาหมึกเกาะกุมองค์ปราสาททำให้ช่วยประคองยึดตัวปราสาทไม่ให้หักพักลงมากได้

เที่ยง                  ä  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร 

จากนั้น นำท่านชม เมืองพระนครธม (นครธม) ผ่าน สะพานนาคราช  เป็นสะพานหินสลักขนาดใหญ่ รูปเทวดา กำลังฉุดนาคอีกฝั่งเป็นอสูรฉุดนาคขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน อันเป็นตอนเริ่มต้นจากนิยายปรัมปราที่พวกพรามหณ์เล่าถึงตอนกำเนิดโลกมนุษย์และจักรวาล เดินผ่านสู่  ประตูเมืองทิศใต้  ชม ปราสาทบายน เป็นปราสาทหลวงประจำรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 เป็นรูปแบบที่มีลักษณะแตกต่างจากการสร้างรูปแบบเดิมๆเป็นเพราะพระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา นิกายมหายาน อย่างยิ่ง ปรางค์ปราสาทบายนทั้ง 54 ปรางค์ถูกสลักเป็นภาพพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผินพระพักตร์ออกไปทั้งสี่ทิศเพื่อสอดส่องดูแลทุกข์สุขของเหล่าพสกนิกรของพระองค์ให้อยู่อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุข  จากนั้นนั่งรถชมกลุ่มปราสาทเล็กโดยรอบ อาทิเช่น ปราสาทบาปวนลานช้าง , ปราสาทพิมานอากาศ   เข้าชมสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก ปราสาทนครวัด  ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 16501720 โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 โดยถวายเป็นพุทธบูชา ชมรูปสลักนางอัปสรนับหมื่นองค์ ชมภาพแกะสลักนูนต่ำ การกวนเกษียรสุมทร ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณอันศักดิ์สิทธิ์น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ชมภาพการยกกองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 โดยมีภาพกองทัพของเสียมกุก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเราชาวไทยปรากฎอยู่ด้วย

17.30 น.            นำท่านขึ้นชม พระอาทิตย์ตกดิน ณ จุดชมวิว ยอดเขาพนมบาเค็ง  เขาลูกเล็กมีความสูงประมาณ 70 เมตร มีชื่อเรียกในสมัยโบราณว่าปราสาทพนมกันดาล (พนม แปลว่า ภูเขา, กันดาล แปลว่า กลาง)  บนยอดเขามี ปราสาทพนมบาแคง เป็นศาสนสถานแห่งแรกของเมืองพระนคร ตั้งอยู่บนยอดเขา จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะเห็นยอดปราสาทนครวัดผุดขึ้นกลางป่า นอกจากนั้นยังเห็นวิวได้ 360 องศา ยังเห็นตัวเมืองเสียมเรียบ เห็นยอดเขาพนมบกและเทือกเขาพนมกุเลนทอดยาวออกไป

ค่ำ                   ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร

                        หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Regency Angkor Hotel หรือเทียบเท่า ««««



วันที่สาม

เสียมราฐ – ตลาดซาจ๊ะ - หมู่บ้านแกะสลักหิน - ตลาดโรงเกลือ - ด่านปอยเปต – อรัญประเทศ - กรุงเทพฯ

เช้า                    ä   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

08.00 น.            นำท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ที่  ตลาดซาจ๊ะ (ตลาดเก่าเมืองเสียมราฐ) เช่น เสื้อยืดรูปปราสาท หรือ ตัวอักษรเขมร , เครื่องเงิน,ไม้แกะสลัก ต่างๆ พร้อมทั้งจำหน่าย ปลากรอบ ปลาตากแห้ง ปลาร้า  ซึ่งเป็นปลามาจากโตนเลสาบ ของที่ระลึก ต่าง ๆ พวงกุญแจ , โมเดล และคริสตัลรูปปราสาทต่าง ๆ  

เที่ยง                  ä  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

ออกเดินทางสู่ ชายแดนไทย-กัมพูชา ด่านปอยเปต แวะชม หมู่บ้านแกะสลักหิน ซื้อหินทรายแกะสลักระหว่างเส้นทาง  นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนออกเมืองและศุลกากรแล้ว เดินทางเข้าสู่ ตลาดโรงเกลือ เลือกซื้อสินค้าราคาถูก นานาชนิด จนได้เวลาพอสมควร

17.00 น.            ออกเดินทางกลับ สู่ กรุงเทพฯ 

20.00 น.             เดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิ์ภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม



อัตราค่าบริการ  : โปรดสอบถาม

Visitors: 861,854