กระบี่ ดำน้ำ เกาะพีพี อ่าวโล๊ะซามะ เกาะไม้ไผ่ 3 วัน
กำหนดการเดินทาง
วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – สนามบินกระบี่ – คลองท่อม – น้ำตกร้อน – สระมรกต – วัดมหาธาตุวชิรมงคล – ลานปูดำ – ล่องเรือชมบรรยากาศเขาขนาบน้ำ – เกาะกลาง – อ่าวนาง
05.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาท์เตอร์ THAI VIETJET เพื่อเตรียมตัวเดินทาง และผ่านขั้นตอนการเช็คอิน
07.10 น. บินลัดฟ้าสู่ สนามบินกระบี่โดยสายการบิน THAI VIETJET เที่ยวบินที่ VZ340 (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที)
จัดที่นั่งแบบ 3-3 ไม่มีบริการอาหารบนเครื่องทั้งขาไปและขากลับ
(ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง
และสามารถถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กก./ท่าน หากท่านต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
**หมายเหตุ: เที่ยวบินและประเภทเครื่องบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับประกาศของทางสายการบิน**
08.35 น. เดินทางถึง สนามบินกระบี่นำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดกระบี่โดยรถตู้ VIP เมืองชายทะเลในฝัน งดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำ
ทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้
แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เช้า บริการอาหารเช้า แบบกล่อง (BOX SET แซนวิชและน้ำผลไม้) (1)
นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกร้อน คลองท่อมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของกระบี่ มีลักษณะเป็นน้ำตกร้อน อุณหภูมิประมาณ 40 –50 องศาเซลเซียล เป็นน้ำร้อนที่ซึมมาจากผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมอยู่ ตัวน้ำตกร้อน มีขนาดเล็ก สูงประมาณ 5 เมตร มี 3 ชั้น แต่ที่พิเศษ คือ แต่ละชั้น มีแอ่งลักษณะคล้ายอ่างอาบน้ำ ซึ่งเกิดจากการก่อตัวของตะกอนหินปูนในน้ำร้อน ชั้นละ 4 – 5 อ่าง ลึกประมาณ 1 – 1.5 เมตร ในน้ำมีสารกำมะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะสามารถอาบน้ำและแช่ได้ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปแช่น้ำ หรือแช่เท้าเพื่อสุขภาพ
นำท่านเดินทางสู่ สระมรกต ตั้งอยู่ในอำเภอคลองท่อม มีกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่าที่มีน้ำใส เป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง สระมรกตกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระ น้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมี พรรณไม้ที่น่าสนใจ
บ่อน้ำผุดซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสระมรกต ลักษณะเป็นตาน้ำสีฟ้าอมน้ำเงิน เป็นสระน้ำแร่ธรรมชาติ ด้วยความมีแร่ธาตุอยู่ มาก และได้สะท้อนแสงอย่างที่เห็น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติขนาดเล็ก มีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำ ตลอดเวลา สันนิษฐานว่าเกิดจากน้ำที่ซึมออกมาจากใต้ดิน ทำให้ที่แห่งนี้มีน้ำตลอดปีและไหลเป็นลำธารสู่ที่ต่างๆ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารริมธาร (2)
หลังจากนั้นนำท่านสู่ วัดมหาธาตุวชิรมงคลตั้งอยู่ที่บ้านบางโทง ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เดิมวัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกขานว่า “วัดบางโทง” ซึ่งตั้งตามชื่อหมู่บ้านที่ตั้ง ปัจจุบันวัดมหาธาตุวชิรมงคล ถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญและแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดกระบี่ ดึงดูดให้ชาวพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศแวะเวียนเดินทางมาชื่นชมกันอย่างไม่ขาดสาย สำหรับไฮไลท์สำคัญของวัดแห่งนี้ก็คือ “พระมหาธาตุเจดีย์” ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก มหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ในเมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
นำท่านเดินทางสู่ ลานปูดำ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ "อนุสาวรีย์ปูดำ" ตั้งอยู่ที่ท่าเรือขนาบน้ำ จุดตรงนี้เป็นจุดชมวิวชั้นดีของเมืองกระบี่ เพราะสามารถมองเห็นเขาขนาบน้ำ ภูเขาสองลูกที่ตั้งอย่างโดดเด่นริมแม่น้ำกระบี่ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ด้วย ใกล้ๆกับประติมากรรมปูดำ จะมี "อนุสาวรีย์นกออก" หรือนกอินทรี นกประจำถิ่นที่นี่ สาเหตุที่สร้างอนุสาวรีย์เป็นรูปปูดำและนกออกเพราะทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองกระบี่
นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือสวนเจ้าฟ้า ล่องเรือชมบรรยากาศเขาขนาบน้ำ เพื่อไปรับประทานอาหารค่ำที่ เกาะกลาง
เขาขนาบน้ำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่อย่างหนึ่ง อันเกิดจากเขาหินปูนสองลูก ตั้งตระหง่านขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ที่เขาขนาบน้ำนี้นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหัวโทงซึ่งเป็นเรือประมงในท้องถิ่นที่ท่าเรือเจ้าฟ้า
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านเกาะกลางซีฟู้ด (3)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ่าวนาง เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียง และเป็นจุดนั่งเรือไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เช่น ทะเลแหวก เกาะพีพี จะเรียกว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยงของกระบี่ก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นบริเวณอ่าวนางจึงมีบรรยากาศที่คึกคัก เต็มไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร บริษัทขายทัวร์ และนักท่องเที่ยวมากมาย ระหว่างที่ออกเดินทางจากลานปูดำไปยังอ่าวนาง มีสัญญาณไฟจราจรที่เป็นประติมากรรมสุดแปลกแต่แฝงไปด้วยความหมาย
พักที่ โรงแรม SEA SEEKER KRABI RESORT ระดับ 3 ดาว หรือระดับเทียบเท่า
วันที่สอง ท่าเรือนพรัตน์ธารา – อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี – เกาะพีพีเล – หาดปิเละ – อ่าวโล๊ะซามะ – อ่าวมาหยา – เกาะพีพีดอน – เกาะลิง – เกาะไม้ไผ่ – ท่าเรือนพรัตน์ธารา
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
08.00 – 08.30 น. เดินทางสู่ท่าเรือนพรัตน์ธารา
09.00 น. ออกเดินทางโดยเรือเร็วสปีดโบ้ทนำท่านสู่ อุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียก หมู่เกาะนี้ว่า ปูเลาปิอาปิ คำว่า ปูเลา แปลว่าเกาะ คำว่า ปิอาปิ แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า ต้นปีปี ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น พีพี ซึ่งได้ ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเลและปลา หลากสีสันที่สวยงาม
หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อาจกล่าวได้ว่า เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล เป็นสุดยอดแห่งสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เป็นเวิ้งหรืออ่าวใหญ่ที่ภายในมีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม น่าเล่นน้ำแลพดูปะการัง และเกาะพีพีดอน เองครั้งหนึ่ง เคย ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลกเลยทีเดียว เกาะพีพีดอนเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพี มีทั้ง ที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วยเกาะพีพี ประกอบ ด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมคั่นด้วยที่ราบเล็กๆ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว
นำท่านเดินทางสู่ อ่าวปิเละหรือทะเลในเกาะพีพีเล เป็นอ่าวแคบ ๆ ที่มีปากทางเข้าออกทางเดียวลักษณะภายในมีความงดงามราวกับทะเลสาบส่วนตัว เนื่องจากน้ำทะเลมีสีเขียวมรกต เงียบสงบ ไม่ค่อยมีคลื่นลม เหมาะแก่การพักผ่อนเล่น้ำทะเลและชื่นชมกับทัศนียภาพของโตรกผาที่มีลักษณะสูงชันและล้อมรอบจนเกือบเป็นทะเลปิด การเดินทางเข้าไปเที่ยวชมในปิเละ นอกจากจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติยังจะได้ความรู้สึกของการค้นหาการผจญภัยเข้าไปในทะเลสาบอันเร้นลับ นอกจากนี้บริเวณปากทางเข้าอ่าวปิเละยังเป็นจุดดำน้ำชมปะการังที่ดีจุดหนึ่งมีทั้งปะการังสมอง ปะการังจานและปะการังเขากวาง หลังจากนั้นเดินทางสู่ อ่าวโล๊ะซามะมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นประการังอ่อนหลากลายชนิดที่นี่ สีสันใต้ทะเล ของ อ่าวโล๊ะซามะ จัดได้ว่ามีสีสันเลยทีเดียว มีปลาน้อยใหญ่จำนวนมาก สีสันสวยงาม ใต้ท้องทะเลของอ่าวจะเป็นกองหิน ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเล ในวันที่อากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นปลาน้อยใหญ่ และกองหินแนวปะการัง ได้จากบนเรือเอง จนใครๆหลายคน อดใจไม่ได้ที่จะคว้าหน้ากาก พร้อมกับกระโดดลงไปว่ายน้ำกับฝูงปลาใหญ่น้อยในทะเล
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ่าวมาหยา มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวเล็กๆ ที่มีภูเขาหินปูนโอบล้อม มีหาดทรายทอดตัวโค้งงาม พื้นทรายละเอียดยิบขาวเนียน น้ำทะเลสวยใสดุจดังสระว่ายน้ำธรรมชาติแห่งท้องทะเลอันดามัน จนอ่าวมาหยาถูกยกให้เป็น สวรรค์แห่งอันดามัน นอกจากมนต์เสน่ห์ความงามที่เป็นชื่อเสียงดึงดูด เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว อ่าวมาหยาเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เดอะบีช (The Beach) ก่อนออกฉายเมื่อปี 2543 ซึ่งทำให้อ่าวแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังระบือไกลมากยิ่งขึ้น
*เนื่องด้วยอ่าวมาหยา มีการปิดอ่าวให้ธรรมชาติฟื้นตัว ภายในต้นปี 2564 กรมอุทยานฯ เตรียมเปิดแหล่งท่องเที่ยว อ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว*
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ บนเกาะพีพีดอน (5)
นำท่านเดินทางสู่ เกาะพีพีดอนเป็นเกาะใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของเกาะพีพี ทั้งที่พัก ท่าเรือ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างอยู่ที่เกาะนี้ทั้งหมด รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่ งดงาม เกาะพีพีดอน ประกอบด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทรกับ กับอ่าวโละดามลัมซึ่งเป็นเวิ้งวงเข้าหากันคั่นด้วยที่ราบเล็กๆ ร่วมรื่นด้วย ทิวมะพร้าว และจุดไฮไลท์ของเกาะพีพีดอน คือ จุดชมวิว ที่สามารถเห็นทิวทัศน์และทัศนียภาพของเกาะพีพีดอน รวมถึงเกาะต่างๆ บริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ถือว่าเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตก็ว่าได้ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เกาะลิงนักท่องที่ยวและคนที่เกาะเรียกกันติดปากว่าอ่าวลิง หรือ Monkey Bay ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของลิงฝูงใหญ่ บ่อยครั้งจะลงมาที่ชายหาด และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว อ่าวลิง มีทะเล และเป็นแหล่งของปะการัง กองหินอยู่ใต้น้ำจำนวนมากมายแนวประการังที่อ่าวลิงนับว่าเป็นแนวประการังที่ใหญ่พอสมควร มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นประการังน้ำตื้น แต่ตามช่วงแนวหน้าผาลึกลงไปจะเป็น ประการังอ่อน สีสดใส พริ้วไหวกับกระแสน้ำ ท่านที่ไม่เคยดำน้ำแบบ Scuba Diving แต่ถ้ามาดำน้ำตามหน้าผา ในจุดนี้ช่วงน้ำลง จะได้พบเห็นประการังอ่อน และสภาพแวดล้อมของประการังน้ำลึก เหมือนได้ ดำน้ำแบบ Scuba Diving
หลังจากนั้นนำท่านสู่ เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอนไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและ ทิศตะวันออก มีหาดทราย สวยงาม และแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็น แนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของตัวเกาะ
หลังจากนั้นเดินทางถึงท่าเรือนพรัตน์ธารา กลับสู่โรงแรมที่พัก ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม SEA SEEKER KRABI RESORT (6)
พักที่ โรงแรม SEA SEEKER KRABI RESORT ระดับ 3 ดาว หรือระดับเทียบเท่า
วันที่สาม ร้านของฝากศรีกระบี่ – วัดถ้ำเสือ – สนามบินกระบี่ – สนามบินสุวรรณภูม
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)
นำท่านเช็คเอ้าท์สัมภาระ พร้อมเดินทางกลับสู่ ร้านของฝากศรีกระบี่ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากที่ขึ้นชื่อ ทั้ง ขนมเต้าส้อ, น้ำพริกรสเด็ด, ไตปลาแห้ง, ของแห้งต่างๆ มากมาย
เดินทางสู่ วัดถ้ำเสือชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และ ภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัด(วัดถ้ำเสือ)ในเวลาต่อมา วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ "หลวงพ่อจำเนียร" เจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น ถ้ำบางแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัดยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสิกาได้อีกด้วย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านครัวกระบี่น้อย (8)
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
14.15 น. นำท่านสู่ สนามบินกระบี่ โดยสายการบิน THAI VIETJET เที่ยวบินที่ VZ343(ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)
15.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
******************************
อัตราค่าบริการ |
||
กำหนดการเดินทาง |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
06
– 08 พฤษภาคม 2564 |
8,999 |
3,000 |
08
– 10 พฤษภาคม 2564 |
8,999 |
3,000 |
14
– 16 พฤษภาคม 2564 |
9,999 |
3,000 |
16
– 18 พฤษภาคม 2564 |
8,999 |
3,000 |
20
– 22 พฤษภาคม 2564 |
8,999 |
3,000 |
22
– 24 พฤษภาคม 2564 |
8,999 |
3,000 |
28
– 30 พฤษภาคม 2564 |
9,999 |
3,000 |
30
พ.ค. – 01 มิ.ย. 64 |
8,999 |
3,000 |
ราคาตั๋วเช็ค
ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2563 |
** อัตราค่าบริการนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น กรณีเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีส่วนต่างเพิ่ม 1,000 บาท**
***ค่าบริการข้างต้น ยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 300 บาท /ทริป/ท่าน***
การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 8 ท่าน ต่อ 1 คันรถตู้ ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวนดังกล่าว
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงราคา
** ในกรณีที่ลูกค้าเดินทางไม่ถึง 6 ท่าน และประสงค์ที่จะเดินทาง ลูกค้าจะต้องชำระค่าส่วนต่างเพิ่มเติม กรุณาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้ง **
อัตราค่าบริการนี้รวม
-ค่าตั๋วเครื่องบินไปและกลับ ชั้นประหยัด รวมถึงภาษีสนามบินและภาษีน้ำมัน (ราคาตั๋วอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช็คราคาตั๋ว ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2563)
-กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ไม่เกิน 7 กิโล ต่อ 1 ท่าน
-ค่ารถตู้ VIP ตลอดเส้นทาง ตามรายการที่ระบุ (ยังไม่รวมทิปคนขับรถ)
-ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการระบุ
-ค่าอาหารตามที่รายการระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
-ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตราฐานตามที่รายการระบุ (พักห้องละ 2 ท่าน หากพัก 3 ท่าน เป็นเตียงเสริมเท่านั้น ) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พักไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทนโดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
-ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการ และ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
-ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) กรณีต้องการซื้อประกันเพิ่มเพื่อคุ้มครองสุขภาพกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหาร เครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ และ ค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
-ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น
-ค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยว ท่านละ 300 บาท/ทริป/ท่าน
-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
เงื่อนไขการชำระค่าบริการ
- นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ เป็นจำนวน 5,000 บาทต่อท่าน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน เพื่อสำรองที่นั่ง
- นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วัน กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ
- การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท