ทัวร์ออสเตรเลีย

ท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย

 

ประเทศออสเตรเลีย : เพราะหากพูดถึงแดนจิงโจ้ หลายคนก็ต้องนึกถึงประเทศออสเตรเลีย ซึ่งนอกจากจิงโจ้แล้ว ก็ยังมีหมีโคอาลาที่แสนน่ารัก ซึ่งจิงโจ้ถือเป็นสัตว์ประจำประเทศและยังมีสัตว์นานาชนิดที่จะหาไม่ได้ในที่อื่นของโลก พร้อมกับชนเผ่าพื้นเมืองอย่างบอริจินิส ที่มีวัฒนธรรมเดิมๆ ที่ยังสามารถพบเห็นได้ และด้วยความที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ออสเตรเลียมีความโดดเด่นของทางวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ บวกกับวิถีชีวิตของคนพื้นเมือง อันเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้อยากมาสัมผัสกับที่นี่โดยเร็ว

 

สภาพภูมิอากาศ : ภูมิประเทศของออสเตรเลียมีความแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ทำให้สภาพอากาศทั่วไปเป็นแบบเขตร้อนจนถึงเขตอบอุ่น ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น ๔ ฤดู

  •          ฤดูร้อน อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม จนถึง เดือนกุมภาพันธ์
  •         ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม จนถึง เดือนพฤษภาคม
  •         ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน จนถึง เดือนสิงหาคม
  •         ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงเดือนกันยายน จนถึง เดือนพฤศจิกายน

หนึ่งในสามของพื้นที่ในออสเตรเลียตั้งอยู่ในเขตโซนร้อน ส่วนที่เหลือเป็นเขตอบอุ่น บริเวณที่หนาวที่สุดของประเทศ คือบริเวณรัฐแทนเมเนีย และมุมด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป ซึ่งเนื่องจากเป็นทวีปที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ออสเตรเลียจึงได้มีการแบ่งเขตเวลาไว้ 3 เขต ซึ่งอาจมีการปรับเวลาเพื่อชดเชยชั่วโมงกลางวัน ในบางพื้นที่ของออสเตรเลียในช่วงฤดูร้อน

 

เวลา : ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้าง จึงมีความแตกต่างของเวลาตามมาตรฐานกรีนิช โดยจัดแบ่งออกเป็น 3 โซน

-          Eastern Standard Time-EST เร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมงในรัฐ Victoria , New South Wales,Tasmania , Canberra และ Queensland

-          Central Standard Time - CST เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมงครึ่งในรัฐ South Australia และ Northern Territory

-          Western Standard Time – WST เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงในรัฐ Western Australia

ในช่วงฤดูร้อนช่วงเดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม ประเทศออสเตรเลียจะมีเวลาในช่วงกลางวันยาวนานกว่าในช่วงกลางคืน ซึ่งในรัฐ South Australia,Victoria , New South Wales,และ Tasmania จึงมีการปรับเวลาให้เร็วขึ้นจากเดิมอีก 1 ชั่วโมง

 

ภาษา :  ในออสเตรเลียใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ

 

เงินตรา : ออสเตรเลียใช้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) โดย 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียจะมีค่าเท่ากับ 100 เซ็นต์ และมีการแบ่งค่าของเงินดังนี้ คือ ค่าของธนบัตรมีแบบใบละ 5, 20, 50 และ 100 ดอลลาร์ ส่วนเหรียญที่ใช้ จะมี 2 แบบคือเหรียญทอง จะมีเหรียญละ 1 ดอลลาร์ และ 2 ดอลลาร์ ส่วนเหรียญเงินจะมีแบบเหรียญละ 5, 10, 20 และ 50เซ็นต์ ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินบาทไทยอยู่ที่ประมาณ 30 AUD ต่อ 1 บาท

 

ระบบไฟฟ้า : ใช้กระแสไฟฟ้า 240-250 V, AC 50 Hz เหมือนประเทศไทย แต่ใช้ปลั๊ก แบบ 3 ขาถ้าจะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจากเมืองไทย เช่น วิทยุ ต้องใช้ Adapter ซึ่งหาซื้อได้ทั้งในประเทศไทยและออสเตรเลีย

 

ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป : ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว

 

การใช้โทรศัพท์ : ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีการจัดการระบบโทรคมนาคมค่อนข้างซับซ้อน แต่โทรศัพท์สาธารณะที่สามารถโทรออกต่างประเทศนั้นสามารถหาได้ใช้ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, สถานีรถไฟหรือตามท้องถนนต่างๆ โดยมีทั้งแบบหยอดเหรียญ บัตรโทรศัพท์ และบัตรเครดิต การหาซื้อบัตรโทรศัพท์นั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป (Milk Bar) 7eleven ร้านขายอุปกรณ์สื่อสาร และร้านค้าของคนจีนในย่าน China Town ส่วนอัตราค่าโทรศัพท์ ในพื้นที่เดียวกันจะเริ่มต้นที่ 40 เซ็นต์ ส่วนอัตราค่าโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศนั้นจะมีหลายราคา ตั้งแต่ 80 เซ็นต์ต่อนาที ไปจนถึงประมาณ AUD$ 2.5 ต่อนาที ขึ้นอยู่กับประเทศที่โทรไปรหัสทางไกลระหว่างประเทศของออสเตรเลียคือ 61 ถ้าจะโทรทางไกลจากออสเตรเลียมาไทยให้กด 0011 ตามด้วย 66 และกดหมายเลขโทรศัพท์ของสถานที่ที่ต้องการ

 

การให้ทิป : การให้ทิปในต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง

โดยเฉลี่ยค่าทิปสำหรับคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น 3 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 100 บาทต่อท่าน ต่อวัน

 

 

อาหารการกิน :  สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม การกินของชาวออสเตรเลียนอย่างแท้จริง แนะนำให้ไปลองชิม อาหารพื้นเมืองออสเตรเลียขนานแท้ ได้แก่ Shepherd Pie หรือจะเป็นอาหารจานโปรดของชาวออสซี่ เช่น Vegemite ถ้าเอ่ยถึงของหวานก็จะเป็น Lamington หรือ Lemmington ขนมหวานออสเตรเลียนที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจไปทุกราย ซึ่งนิยมทานกับน้ำชาหรือกาแฟยามบ่าย ทั้งหมดนี้ ท่านสามารถลิ้มลองได้จากร้านอาหารของโรงแรมในออสเตรเลีย ที่ท่านไปพัก นอกจากนี้ ในออสเตรเลียยังมีภัตตาคาร และร้านอาหารไทยอยู่มากมายตามเมืองต่างๆ เพราะมีชาวไทยไปเรียน และไปทำงานกันมาก

 

รายการช้อปปิ้ง : สินค้าพื้นเมืองหัตถกรรม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไม้แกะสลัก ครีมรกแกะ และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

เทศกาลสำคัญ :  Perth Royal Show Perth Royal Show งานนี้มีขึ้นทุกปีช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมปีละครั้ง ค่าผ่านประตูก็ 20เหรียญ ประมาณ 600 บาท ในงานก็จะมีของเล่นต่างๆสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ มีสัตว์มาโชว์ด้วย มีของขาย แล้วก็มีการแสดงต่างๆ งานจัดแสดงด้านเกษตรกรรมของออสเตรเลียเป็นงานที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีความบันเทิงมากมาย รวมทั้งการแข่งขันของสุนัขเลี้ยงแกะ การกระโดดข้ามรถเสี่ยงตาย การแข่งขันของสุกร คนเดินบนไม้ต่อขา ดอกไม้ไฟ การแสดงทำอาหาร พาเหรดปศุสัตว์ เครื่องเล่นหลายรายการ และอื่น ๆ

-        Artrage อาร์ทเรจ (Artrage) เทศกาลศิลปะร่วมสมัยและวัฒนธรรมท้องถิ่นนี้ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนตุลาคมรอบเขตชานเมืองนอร์ธบริดจ์ โดยเป็นการเฉลิมฉลองศิลปินผู้มีพรสวรรค์หน้าใหม่ ๆ ของเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน พร้อมกับแขกรับเชิญจากต่างรัฐและต่างประเทศ

-         Gay Pride March พาเหรดเกย์ไพรด์ (Gay Pride March) – พาเหรดนี้อยู่ในปฏิทินงานต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 1990 โดยเป็นการเดินขบวนที่มีสีสันในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเทศกาล Pride ในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ การเดินขบวนเริ่มต้นจากแยกถนน บริสเบน (Brisbane St) และถนนวิลเลี่ยม (William St.) ทางตอนเหนือของนอร์ธบริดจ์

-          Fremantle Festival & Street Arts Festival เทศกาลฟรีแมนเทิล & เทศกาลการแสดงตามท้องถนน (Fremantle Festival & Street Arts Festival) – เทศกาลฟรีแมนเทิลถูกจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสันของเมืองนี้ ในขณะที่เทศกาลการแสดงตามท้องถนนอีสเตอร์ ดึงดูดผู้ชมได้ถึง 100,000 กว่าคน ที่มาชมการแสดงของเหล่านักแสดงที่มีฝีมือที่สุดในโลก

-       Perth International Arts Festival เทศกาลศิลปะนานาชาติเพิร์ท (Perth International Arts Festival)– จัดขึ้น ในเดือนพฤศจิกายนโดยงานนี้เป็นเทศกาลศิลปะนานาชาติที่เก่าแก่ทีสุดของออสเตรเลีย ซึ่งมุ่งจะนำศิลปะเข้ามาผสมผสานในชีวิตประจำวันของทุกคน ไม่ใช่แต่เพียงผู้ชื่นชอบศิลปะ ยังครอบคลุมดนตรี ละคร ภาพยนตร์ นาฏศิลป์ ทัศนศิลป์ และวรรณกรรม

-          Australian Open ในเดือนมกราคม ศูนย์เทนนิสแห่งชาติ (National Tennis Centre) ของเมลเบิร์นจะจัดการแข่งขันเทนนิสแกรนด์แสลมของออสเตรเลีย ซึ่งดึงดูดนักเล่นเทนนิสที่ติดอันดับโลกหลายคน และเป็นโอกาสให้ผู้เข้าชมการแข่งขันระบายสีบนใบหน้าตามสีของธงชาติในการเชียร์ผู้เล่นของประเทศตน

-      Antipodes Festival ในเดือนมีนาคม ย่านชุมชนชาวกรีกบนถนนลอนสเดล (Lonsdale St) ซึ่งอยู่ระหว่างถนนสวอนสตันและถนนรัสเซล จะเฉลิมฉลองด้วยภาพยนตร์ ดนตรี และทัศนศิลป์ ตบท้ายด้วยการเฉลิมฉลองตามท้องถนนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ใกล้วันที่ 25 มีนาคมมากที่สุด

-         International Comedy Festival เป็นหนึ่งในสามเทศกาลการแสดงตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยรวบรวมไว้ซึ่งนักแสดงตลกที่มีฝีมือที่สุดของออสเตรเลีย และนักแสดงมือหนึ่งของโลกบางราย เทศกาลนี้จัดขึ้นที่หลายสถานที่ทั่วเมืองตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน

-   Melbourne International Film Festival เทศกาลนี้นำเสนอภาพยนตร์ของนานาชาติและท้องถิ่นที่ดีที่สุดบางเรื่อง โดยจัดขึ้นเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ในเดือนกรกฎาคมที่โรงภาพยนตร์หลายแห่งทั่วเมือง ซึ่งนอกจากจะได้เชิญแขกผู้ทรงเกียรติหลายท่านแล้ว ยังมีการจัดฟอรั่มต่าง ๆ และชมรมเฟสติวัล ซึ่งเป็นชมรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลังการฉายภาพยนตร์ด้วย

-     Royal Melbourne Show คนจากทั่วประเทศหลั่งไหลมาที่เมลเบิร์นเพื่อเข้าชมงานจัดแสดงด้านเกษตรกรรมที่ยิ่งใหญ่และได้รับความนิยมอย่างสูงนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่เขตเฟลมมิงตั้น (Flemington) ในเดือนกันยายน โดยมีการแสดงของสุนัข การล้อมจับปศุสัตว์ การขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวาง เครื่องเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย

-          Hot Air Ballooning Festival จัดขึ้นช่วงเดือนเมษายน

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ : ฮาร์เบอร์บริดจ์ (Harbour Bridge)

ไม่ว่าจะเดินจากปลายสะพานด้านหนึ่งไปอีกด้าน หรือจะปีนขึ้นข้างบนก็แล้วแต่ ไม้แขวนเสื้อของซิดนีย์แห่งนี้ก็จะมอบความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืมตลอดกาล ความคิดที่จะสร้างซิดนีย์ฮาร์เบอร์บริดจ์นั้นย้อนไปตั้งแต่ปี 1815 แต่ก็ไม่ได้เริ่มลงมือทำจนกระทั่งปี 1923 โด่งดังด้วยโค้งที่โดดเด่นและเสาสูงขนาดใหญ่ สะพานแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี 1932 ได้เป็นสะพานแขวนที่มีช่วงว่างยาวที่สุดจนถึงปี 2012 และเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในซิดนีย์จนถึงปี 1967 สะพานแห่งนี้ประกอบด้วยหมุดที่ตอกด้วยมือกว่า 6 ล้านตัว และเมื่อต้องทาสีใหม่ในแต่ละครั้งจะต้องใช้สีถึง 7,925 แกลลอน (30,000 ลิตร)  ทุกวันนี้ สะพานสำหรับรถ รถไฟและคนเดินเท้าแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าของซิดนีย์ไปแล้ว สะพานนี้ยังเป็นเครื่องประดับชิ้นกลางสำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของเมือง โดยมีการแสดงดอกไม้ไฟที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ทิวทัศน์ของซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ ซิดนีย์ฮาร์เบอร์และสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ สะพานก็ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดช่างภาพอีกด้วย ใช้เวลา 30 นาทีเดินข้ามทางเดินจากฝั่งตะวันออกของสะพาน ซึ่งมาได้ง่ายจาก Milsons Point นักปั่นจักรยานก็สามารถใช้ทางจักรยานที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่เหนือการจราจรใด ๆ ก็ควรจองการปีนซิดนีย์ฮาร์เบอร์บริดจ์ ด้วยทิวทัศน์ที่กว้างไกลของเมือง ประสบการณ์ BridgeClimb จึงเป็นที่นิยมอย่างมากดังนั้นจึงต้องจองล่วงหน้าการปีนมีให้บริการในหลายภาษาและยังมีการปีนแบบด่วนให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาในเมืองให้คุ้มค่าที่สุดBridgeClimb แบบดั้งเดิมจะใช้เวลา 3.5 ชั่วโมง ก็ยังเป็นทางเลือกยอดนิยม คุณจะต้องเดินขึ้นไปตามโค้งด้านนอกสุดของสะพานที่ด้านซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์เป็นระยะทางกว่า 1,000 ก้าว เต็มที่กับวิวแบบ 360 องศา และโพสท่าถ่ายภาพหมู่กับทั้งกลุ่มบนยอดของสะพาน สำหรับการปีนที่ลงแรงน้อยหน่อย คุณสามารถไปที่เสาสูงที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถไปถึงได้โดยเส้นทางเดินเท้า เรียนรู้ประวัติของสะพานระหว่างทางเดินขึ้นกว่า 200 ก้าวไปถึงที่ชมวิวของหอสูง นิทรรศการที่มีทั้งหมดสามชั้นจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบและการก่อสร้าง มีค่าธรรมเนียมในการเข้าที่ชมวิว ซึ่งเปิดทุกวัน ยกเว้นวันคริสต์มาส ทางเข้าสะพานจากด้านย่านกลางเมืองคือ ผ่าน Bridge Stairs บน Cumberland Street ในบริเวณ The Rocks ระยะทางใกล้ ๆ ขณะเดินไปที่ The Rocks จาก Circular Quay ซึ่งเป็นศูนย์การขนส่งสาธารณะหลัก มีมิเตอร์จอดรถยนต์อยู่ในบริเวณนี้ แต่มีที่จอดรถจำกัด

เทือกเขาสีน้ำเงิน (Blue Mountains)

อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ หรือ หุบเขาสีน้ำเงิน ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นจุดชมทิวทัศน์อันสวยงามบนผืนแผ่นดินกว้างใหญ่  ซึ่งในอุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์มีเขาที่ชื่อว่า เขาสามอนงค์ (THREE SISTERS) มีลักษณะเป็นภูเขาทั้ง 3 ลูกเรียงกัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดตำนานความรักอันแสนเศร้าของยักษ์สาวอะบอริจิ้น นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีสถานีรถรางไฟฟ้า (KATOOMBA SCENIC RAILWAY) เพื่อนั่งรถรางไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถขนถ่านหินในสมัยก่อน วิ่งผ่านทะลุหุบเขาอันสูงชัน และมีกระเช้า SCENIC CABLEWAY เพื่อชมความงดงามของทิวทัศน์ในมุมสูง

สนามกีฬาโอลิมปิก (Homebush Bay/Sydney Olympic Stadium)

สนามกีฬาออสเตรเลีย (อังกฤษ: Stadium Australia) หรือชื่อเดิม สนามกีฬาเทสตรา ตั้งอยู่ที่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เป็นสนามกีฬาหลักในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ ระหว่างวันที่ 15 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2543 ปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของ เอเชียนคัพ 2015

กรุงแคนเบอร์ร่า (Canberra)

ในวันที่ 12 มีนาคม 2013 นี้เมืองแคนเบอร์ร่าได้ฉลองครบรอบ 100 ปีแล้วหลังจากได้รับการประกาศให้เมืองแคนเบอร์ร่าเป็นเมืองหลวงใหม่ของประเทศออสเตรเลียในวันที่ 12 มีนาคม 1913 แคนเบอร์ร่าอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางใต้ประมาณ 290 กิโลเมตร และอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมลเบิร์นไป 660 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในรัฐ ACT (Australian Capital Territory)  เป็นศูนย์รวมของหน่วยงานรัฐบาล เช่นรัฐสภา ศาลสูง กระทรวง และสถานทูตประเทศต่างๆรวมทั้งสถานทูตไทยประจำออสเตรเลีย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของออสเตรเลีย การเลือกเอาเมืองแคนเบอร์ร่ามาเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นเพราะว่าทั้งซิดนีย์และเมลเบิร์นที่ต่างก็เป็นเมืองใหญ่ และต่างก็ต้องการที่จะเป็นเมืองหลวงของประเทศเช่นกัน ดังนั้น เพื่อระงับความขัดแย้งจึงได้เลือกเอาแคนเบอร์ร่า ที่อยู่ระหว่างซิดนีย์และเมลเบิร์นมาเป็นเมืองหลวงแทนผังเมืองแคนเบอร์ร่าเป็นผังเมืองที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีจากการประกวดผังเมืองระดับนานาชาติ ประกอบด้วยรูปเรขาคณิตทรงต่างๆไม่ว่าจะเป็นวงกลม สามเหลี่ยม  หรือรูปหกเหลี่ยม จัดวางออกมาเป็นรูปสมมาตร ให้ตึกรามบ้านช่องรายล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์จนได้สมญานามว่า Bush Capital หรือเมืองในสวน นับว่าเป็นการออกแบบผังเมืองที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ทะเลสาบกริฟฟิน (Lake Burley Griffin)

ทะเลสาบกริฟฟิน ตั้งชื่อตามสถาปนิกผูออกแบบเมือง เป็นทะเสสาบขุดกว้างใหญ่อยู่ใจกลางเมือง ตรงกลางมีน้ำพุชื่อว่า Captain Cook Memorial WaterJet ซึ่งพุ่งได้สูงถึง140 เมตร มองเห็นได้จากทุกมุมเมือง น้ำพุนี้จะเปิดในเวลา10.00-12.00 น. และ14.00-16.00 น. ในฤดูร้อนจะเปิดในช่วงค่ำ19.00-21.00 น. ด้วย

 อนุสรณ์สถานทหารแห่งออสเตรเลีย (Australian War Memorial)

ตั้งอยู่บนถนน Anzac Parade เป็นอนุสรณ์สถานสำหรับรำลึกถึงทหารผู้รับใช้ชาติมนสงครามต่าง ๆ ที่ออสเตรเลียได้มีส่วนร่วมด้วย มีอาคารพิพิธภัณฑ์อาวุธ หอแสดงภาพเกี่ยวกับสงคราม ห้องจำลองสมรภูมิในสมัยสงครามโลก

พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น (Melbourne Museum)

เป็นอาคารของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย เป็นแล่งความรู้และแสดงสิ่งที่น่าสนใจมากมายด้านเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด มีเรื่องราวของชนพื้นเมืองประวัติศาสตร์ ประดิษฐกรรมต่าง ๆ รถยนต์ และเครื่องบินลำแรกที่ทำในออสเตรเลีย ที่น่าสนใจคือร่างสตัฟฟ์ของม้าแข่งฝีเท้าระดับหนึ่งของโลก ชื่อ"ฟ้าแลบ" ซึ่งไปพบจุดจบอย่างมีปริศนาที่อเมริกา นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนต์ IMAX และการจำลองป่ามาให้ผู้ชมได้ศึกษาชีวิตธรรมชาติด้วย

บ้านกัปตันคุก (Captain Cook' s Cottage)

ในอดีตบ้านหลังนี้ ถูกสร้างเมื่อปี 1755 อยู่ในหมู่บ้านเกรท เอย์ตัน(Great Ayton) ประเทศอังกฤษ เดิมเป็นบ้านของ บิดามารดาของกัปตันคุ๊ก ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่ค้นพบ ทวีปออสเตรเลีย เมื่อ ค.ศ. 1770 ต่อมาท่าน เซอร์ รัสเซล กริมเวด ได้ซื้อมาจากอังกฤษ โดยรื้ออิฐออกมาทีละก้อน แล้วถูกลำเลียงมาทางเรือ และมาประกอบใหม่ที่นี่ นำมาตั้งไว้ที่สวนฟิทซ์รอย (Fitzroy Gardens) เมื่อปี 1934 เพื่อเป็นของขวัญครบรอบหนึ่งร้อยปีของรัฐวิคตอเรีย และเพื่อเป็นการระลึกถึงการเดินทางค้นพบทวีปออสเตรเลียของกัปตันคุ๊ก ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านบางอย่างเป็นของดั้งเดิม บางอย่างก็เป็นของที่ทำเลียนแบบขึ้นมาใหม่ แล้วให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมภายในบ้านได้ ซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยที่ทำด้วยไม้และโลหะ ที่แสดงถึงห้องครัวในสมัยนั้น เมื่อขึ้นบันได ไป ก็จะเห็นห้องซึ่งใช้เป็นทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น เปลเด็กทำด้วยไม้โอ๊ค ตะเกียง เทียนไข ซึ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสตรีในยุคอังกฤษโบราณที่ตอนกลางคืน ต้องทอผ้า หรือปั่นด้ายไปด้วย ขณะเดียวกันก็ไกวเปลกล่อมลูกนอนไปด้วย

คิงส์ปาร์ก (Kings Park)

คิงส์ปาร์กเป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของเมืองเพิร์ท เป็นสวนสาธารณะแห่งเดียวของออสเตรเลียที่มีนักท่องเที่ยวและชาวเมืองเพิร์ทเข้ามาเยือนกันปีละหลายล้านคน มีเนื้อที่กว้างขวางประมาณ 400 เอเคอร์ ครอบคลุมภูเขาอีไลซ่า (Mount Eilza) เมื่อเดินไปจนถึงยอดเขาจะมีจุดชมวิวของเมืองเพิร์ทและแม่น้ำสวอนซึ่งเป็นวิวที่สวยงานมาก ภายในสวนคิงส์ปาร์กจะมีต้นไม้ที่ปลูกเป็นแถวยาวและมีอายุเป็นร้อนปี นอกจากนี้ยังมี พันธ์ไม้นานาชนิด พิพิธภัณฑ์ รูปปั้นบุคคลสำคัญ และร้านอาหาร

ลอนดอนคอร์ต (London Court)

เป็นกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมทิวดอร์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่18 ตั้งอยู่ระหว่างเฮย์สตรีทจอร์จเทอเรซ ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ลอนดอนคอร์ตของนักท่องเที่ยวที่พากันมาถ่ายรูป

ออสเตรเลีย,ทัวร์ออสเตรเลีย,ประเทศออสเตรเลีย,เที่ยวออสเตรเลีย,แพคเกจทัวร์ออสเตรเลีย,แพ็คเก็จทัวร์ออสเตรเลีย,แพ็คเกจทัวร์ออสเตรเลีย,โปรแกรมทัวร์ออสเตรเลีย,โปรแกรมท่องเที่ยวออสเตรเลีย
,ที่พักในออสเตรเลีย,โรงแรมที่พักในออสเตรเลีย,ตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลีย,ท่องเที่ยวออสเตรเลีย,ร้านอาหารในออสเตรเลีย,ร้านอาหารไทยในออสเตรเลีย,ไปออสเตรเลีย,เที่ยวออสเตรเลียถูก
,แพคเกจทัวร์ออสเตรเลียถูก,แพคเกจทัวร์ออสเตรเลียราคาถูก,แพคเกจทัวร์ออสเตรเลียราคาพิเศษ,แพคเกจทัวร์ออสเตรเลียราคาประหยัด,โปรโมชั่นแพคเกจทัวร์ออสเตรเลีย
,แพ็คเกจทัวร์ออสเตรเลียถูก,แพ็คเกจทัวร์ออสเตรเลียราคาถูก,แพ็คเกจทัวร์ออสเตรเลียราคาพิเศษ,แพ็คเกจทัวร์ออสเตรเลียราคาประหยัด,โปรโมชั่นแพ็คเกจทัวร์ออสเตรเลีย
,แพ็คเก็จทัวร์ออสเตรเลียถูก,แพ็คเก็จทัวร์ออสเตรเลียราคาถูก,แพ็คเก็จทัวร์ออสเตรเลียราคาพิเศษ,แพ็คเก็จทัวร์ออสเตรเลียราคาประหยัด,โปรโมชั่นแพ็คเก็จทัวร์ออสเตรเลีย
,เพิร์ธ,ฟรีแมนเทิล,ล่องเรือแม่น้ำสวอน,โลกใต้ทะเลสวนสัตว์เคเวอร์แชม,ชมการตัดขนแกะ,ชิมไวน์,โรงงานช็อคโกแล็ต,โรงงานนูการ์,ช้อปปิ้ง
,สวนสาธารณะคิงส์ปาร์ค,ชมเมืองแห่งประวัติศาสตร์ฟรีแมนเทิล,ล่องเรือชมแมน้ำสวอนแม่น้ำสายหลักของเมืองเพิร์ธ,ชมสวนสัตว์เคเวอร์แชม,ชมโชว์การตัดขนแกะ,ชิมไวน์ชั้นเลิศพร้อมเลือกซื้อช็อคโกแล็ตและนูการ์เป็นของฝาก
,กรุงเพิร์ธรัฐออสเตรเลียตะวันตก ประเทศออสเตรเลีย,สวนสัตว์แคเวอร์แชมป์ไวด์ไลฟ์ปาร์ค (Caversham Wildlife Park),Golden Grove Orange Orchard
,ไร่ไวน์ซานดัลฟอร์ด,สัตว์น้ำใต้ทะเลอะแควเรี่ยม,เมลเบิร์น,เที่ยวชมเมือง,กระท่อมกัปตันคุ๊ก,เที่ยวชมตึกรัฐสภา (PARLIAMENTHOUSE),วิคตอเรีย มาร์เก็ต,เกาะฟิลลิป,เมนูพิเศษกุ้งล๊อปสเตอร์
,ตลาดวิคตอเรีย (Queen Victoria Market),ไร่ไวน์ของชาวออสซี่ (GURDIE WINERY),เกาะฟิลลิป (PHILLIP ISLAND NATURE PARK)
,ดันดีนอง,รถไฟไอน้ำโบราณ Puffing Billy Train,รถไฟจักรไอน้ำโบราณ (PUFFING BILLY STEAM TRAIN),ซิดนีย์ บลูเม้าท์เท่น
,ล่องเรือชมอ่าวซิดนีย์ที่ถือว่ามีทัศนียภาพงดงามที่สุด,ชมบลูเม้าท์เท่น,นั่งรถรางและการแสดงตัดขนแกะ,ท่าเรือเซอร์คูล่าคีย์ ,ล่องเรือชมความงามของอ่าวซิดนีย์,โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ ,Opera House
,สวนสัตว์ทารองกา (Taronga Zoo),โคอาล่าปาร์ค,ชมการตัดขนแกะ,อุทยานบลูเม้าท์เท่นส์,ScenicRailwa & Cableway
,ม้าหินของมิสซิสแม็คควอรี่,ซิดนีย์ บริสเบน โกลด์โคสต์,ชมเมืองซิดนีย์ ล่องเรือชมอ่าว ,ชมเมืองบริสเบนและโกลด์โคสต์ และตื่นเต้นไปกับโลกแห่งภาพยนตร์มูฟวี่เวิลด์
,ชมเมืองบริสเบน,เมืองโกลด์โคสท์,Harbour Town Outlet Shopping,สวนสนุกดรีมเวิร์ล,ให้ท่านได้สัมผัสและถ่ายรูปกับหมีโคอาล่า
,อาคารรัฐสภา,ทะเลสาบ เบอร์เล่ย์ กริฟฟิน (Walter Burley Griffin),ชมขบวนพาเหรดนกเพนกวิน

Visitors: 812,587